Abstract:
พัฒนาเทคนิคการแช่แข็งตัวอสุจิสุกร และศึกษาอัตราการปฏิสนธิ อัตราการตั้งท้อง อัตราการคลอด และจำนวนลูกเกิดหลังผสมเทียมด้วยน้ำเชื้อแช่แข็ง แบ่งการทดลองเป็น 2 การทดลองคือ การทดลองที่ 1 ศึกษาอัตราการปฏิสนธิหลังการผสมเทียมด้วยน้ำเชื้อแช่แข็ง และการทดลองที่ 2 การศึกษาอัตราการตั้งท้อง อัตราการเข้าคลอดและขนาดครอกหลังการผสมเทียมด้วยน้ำเชื้อแช่แข็ง โดยรีดน้ำเชื้อจากพ่อสุกรและแช่แข็งที่ -196 ํC แล้วนำตัวอสุจิผสมเทียมแบบสอดท่อเข้าตัวมดลูก (IUI) ขนาดความเข้มข้นของอสุจิ 2.0x10 [ยกกำลัง 9] ตัว/มล. และแบบสอดท่อเข้าปีกมดลูกในสุกร (DIUI) ขนาดความเข้มข้น 1x10[ยกกำลัง 9] ตัว/ครั้ง จากการทดลองที่ 1 เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยร้อยละของจำนวนตัวอ่อนที่พบภายในท่อนำไข่ซึ่งหมายถึงอัตราการปฏิสนธิในการทดลองนี้ด้านซ้ายและขวาของแม่สุกรแต่ละกลุ่มพบว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (74.2% และ 75.2 %, p=0.94 สำหรับแม่สุกรกลุ่ม IUI และ 17.82% และ 18.81%, p=0.76 สำหรับแม่สุกรกลุ่ม DIUI) จากการศึกษาพบว่าอัตราการผสมติดตั้งท้องของแม่สุกรกลุ่ม IUI มีค่าเท่ากับ 88.9% (8/9) ในขณะที่แม่สุกรกลุ่ม DIUI มีค่าเป็น 66.7% (6/9) โดยอัตราการผสมติดของแม่สุกรทั้งสองกลุ่มนี้ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติและยังไม่แตกต่างกับผลของแม่สุกรกลุ่มที่ถูกผสมจริงด้วยพ่อสุกร ซึ่งถือเป็นกลุ่มควบคุม (80.9%, 59/73) (p=0.8) จากการศึกษาในครั้งนี้สามารถสรุปได้ว่า น้ำเชื้อสุกรแช่แข็งที่ถูกผลิตขึ้นในประเทศไทย เมื่อนำไปใช้ผสมเทียมในแม่สุกรแบบการฉีดเข้าสู่มดลูกโดยตรง (DIUI และ IUI) นั้น สามารถลดจำนวนอสุจิที่ต้องใช้ต่อการผสมในแต่ละครั้งลงได้ โดยที่ยังคงมีอัตราการปฏิสนธิ อัตราการเข้าคลอดและขนาดครอกอยู่ในระดับที่น่าพอใจหากทำการผสมในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาตกไข่มากที่สุด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการผลิตน้ำเชื้อสุกรแช่แข็งในเชิงพาณิชย์ขึ้นในประเทศไทย เพื่อใช้สำหรับการผสมเทียมหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ต่อไป ซึ่งในที่สุดแล้วเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรของประเทศไทยในอนาคต