Abstract:
ชุมชนเพชรคลองจั่นเป็นชุมชนบุกรุกที่สาธารณ ประโยชน์ริมคลองพิชัยในความดูแลของกรุงเทพมหานคร จึงมีปัญหาความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัย โดยได้รับโอกาสจากการเสนอแนวคิด "คนกับคลอง" ร่วมกับเครือข่ายสลัม 4 ภาคแก่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายพิจิตต รัตตกุล ในวันที่ 1 ก.ย. 2541 ในการชะลอการไล่รื้อ ทำให้ชาวชุมชนเพชรคลองจั่นมีส่วนร่วมในการ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยในที่ดินเดิมจนได้เป็นชุมชนนำร่อง การวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษากระบวนการขยับบ้านขึ้นจากคลอง พิชัย กรณีศึกษาเคหะชุมชนเพชรคลองจั่นโดยชาวชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยศึกษาสภาพเศรษฐกิจ กายภาพและสังคม ก่อนและหลังการรวมตัวด้วยวิธีช่วยกันสร้างปรับปรุงชุมชน ตลอดจนทัศนคติของชาวชุมชนเพชรคลองจั่น ชุมชนข้างเคียง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการอยู่อาศัยของชุมชนเพชรคลองจั่น เพื่อเสนอแนะแนวทางการจัดหาที่อยู่อาศัยที่ถูกต้องสำหรับชุมชนเพชรคลองจั่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการสัมภาษณ์ชาวชุมชนเพชรคลองจั่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแจกแบบสอบถามแก่ชาวบ้านข้างเคียง ร่วมกับการสังเกต ถ่ายภาพ และวาดผังพื้นที่ใช้สอยภายในที่พักอาศัยของชาวเพชรคลองจั่น ผลการศึกษาพบว่ามีจำนวนบ้าน 61 หลังคาเรือน คิดเป็นจำนวนประชากร 237 คน รวมตัวกันแก้ไขโดยเริ่มจากปัญหาสิ่งแวดล้อมคือ การลอกคลองและขยับบ้านขึ้นจากคลอง โดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนเพชรคลองจั่น เครือข่ายเพื่อการพัฒนาชุมชน สมาคมร่วมกันสร้าง และมูลนิธิชุมชนไท ซึ่งใช้งบประมาณเป็นกลไกในการพัฒนา เกิดจากปัจจัยภายนอกคือ 1) การได้รับโอกาสจากหน่วยงานของรัฐในการชะลอการไล่รื้อและประสานงานช่วยเหลือ ชุมชน 2) การประสานงานกับองค์กรเอกชน (NGOs) ในการจัดระบบและงบประมาณ
3) การสร้างและเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือกันในระดับองค์กรชุมชนและ ปัจจัยภายในคือ 1) การเผชิญปัญหาไล่รื้อซึ่งเป็นปัญหาระดับส่วนรวม 2) การถูกปิดทางเข้าออกซึ่งเป็นปัญหาระดับชุมชน 3) กระบวนการเรียนรู้ 4) การมีส่วนร่วมของชาวบ้านในชุมชนเพชรคลองจั่น 5) การมีกลไกที่เอื้อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์และการติดต่อสื่อสารที่ต่อเนื่อง ซึ่งยังมีการพัฒนาโดยกระบวนการพึ่งพาตนเองอยู่ แต่ขาดการแก้ไขด้านเศรษฐกิจ ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านไม่ย้ายไปโครงการฉลองกรุงที่การเคหะแห่งชาติจัดให้คือ ไกลจากแหล่งงานเดิม ทั้งนี้ทัศนคติของชาวบ้านข้างเคียงและหน่วยงานส่วนใหญ่ทราบถึงการพัฒนาของ ชุมชนเพชรคลองจั่น แต่เห็นควรรื้อย้ายชุมชนโดยหน่วยงานรัฐ ขณะที่องค์กรเอกชนและองค์กรชุมชนให้ความเห็นขอเช่าที่เดิม โดยผู้เชี่ยวชาญบางท่านให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าควรเตรียมความพร้อมให้กับ ชุมชนก่อนการรื้อย้าย ทำให้ได้แนวทางในการจัดหาที่อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมาย 3 แนวทางคือ 1) การย้ายไปอยู่ที่ใหม่ 2) การประสานประโยชน์การใช้ที่ดินและการปรับผังชุมชนใหม่ทั้งหมดโดยการเช่า 3) การประสานประโยชน์การใช้ที่ดินและการปรับผังชุมชนบางส่วนโดยการเช่า ข้อเสนอแนะจากการวิจัย เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้โดยเฉพาะด้านงบประมาณและการมีส่วนร่วมของชาว บ้าน จึงเสนอทางเลือกเพื่อนำไปสู่การได้มาซึ่งการจัดหาที่อยู่อาศัยที่ถูกต้องตาม กฎหมาย โดยการเช่าชั่วคราวด้วยการประสานประโยชน์การใช้ที่ดินและการปรับผังชุมชนบาง ส่วน โดยเตรียมความพร้อมด้านเศรษฐกิจด้วยการออมทรัพย์ก่อนรื้อย้าย และต้องเป็นกระบวนการที่มีชาวบ้านเป็นหลักโดยหน่วยงานรัฐเป็นเพียงผู้ กระตุ้นและประสานงาน เพื่อเสริมความเข้มแข็งแก่ชาวชุมชน เพชรคลองจั่น