Abstract:
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างความเป็นเจ้าของบริษัทจด ทะเบียนต่อการเข้าสู่หมวดฟื้นฟูกิจการ โครงสร้างความเป็นเจ้าของประกอบด้วย (1) สัดส่วนผู้ถือหุ้น ประเภทบริษัทในเครือ (2) สัดส่วนผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลทั่วไป (3) สัดส่วนผู้ถือหุ้นประเภทสถาบัน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระหว่าง ปี 2540-2546 การศึกษาในครั้งนี้ใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมานในการทดสอบความแตกต่างระหว่าง ค่าเฉลี่ยของสองประชากร และวิเคราะห์ความถดถอยโลจิสติคเพื่ออธิบายผลการวิจัยและทดสอบ ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างความเป็นเจ้าของต่อการเข้าสู่หมวดฟื้นฟูกิจการ ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า ณ ระดับความเชื่อมั่นที่ 95% สัดส่วนของผู้ถือหุ้นประเภทบริษัทในเครือมีความสัมพันธ์เชิงบวก กับโอกาส (ความน่าจะเป็น) ที่บริษัทจดทะเบียนจะเข้าสู่หมวดฟื้นฟูกิจการ ในขณะที่สัดส่วนของ ผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลทั่วไป และผู้ถือหุ้นประเภทสถาบันนั้นไม่มีความสัมพันธ์กับโอกาส (ความน่าจะเป็น) ที่บริษัทจดทะเบียนจะเข้าสู่หมวดฟื้นฟูกิจการ นอกจากนั้นการศึกษาครั้งนี้ได้ ควบคุมตัวแปรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเข้าสู่หมวดฟื้นฟูกิจการ พบว่า บริษัทจดทะเบียนที่ส่วน ผู้ถือหุ้นติดลบ อัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์รวม อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสามารถใช้ ในการพยากรณ์การเข้าสู่หมวดฟื้นฟูกิจการของบริษัทจดทะเบียนฯ ได้ การศึกษาครั้งนี้ได้เสนอแนะ ว่า หน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนฯ ควรพัฒนากลไกในการควบคุมให้มีการกระจายตัวของ การถือหุ้นไปยังรูปแบบต่างๆ ไม่เฉพาะแต่ผู้ถือหุ้นประเภทบริษัทในเครือเท่านั้น.