Abstract:
ศึกษาถึงการใช้มาตรการเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ เพื่อสิ่งแวดล้อมของประเทศอุตสาหกรรม ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกันมาตรการดังกล่าวก่อให้เกิดข้อจำกัดทางการค้า เนื่องจากมีมาตรการหลายประเภท ที่เป็นทั้งมาตรการบังคับในการออกกฎหมายเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ และมาตรการสมัครใจ เพื่อพิจารณาผลกระทบของการใช้มาตรการดังกล่าว ของประเทศอุตสาหกรรมที่มีต่อประเทศไทย ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ถึงความสำคัญและผลการใช้มาตรการ เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมในลักษณะต่างๆ โดยนำมาพิจารณาภายใต้กรอบขององค์การการค้าโลก ได้แก่ ข้อตกลงว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า ข้อตกลงว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ของประเทศสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น จากการวิจัยปรากฏว่า การใช้มาตรการเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบทั้งทางด้านบวกและด้านลบ กล่าวคือเป็นการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และเป็นข้อจำกัดทางการค้าซึ่งภายใต้กรอบขององค์การการค้าโลก ไม่มีบทบัญญัติใดที่สามารถนำมาปรับใช้ได้โดยตรง แต่อย่างไรก็ตามการใช้มาตรการเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จะต้องอยู่บนหลักการห้ามเลือกปฏิบัติ ของข้อตกลงว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า นอกจากนี้ การกำหนดคุณลักษณะของบรรจุภัณฑ์ เป็นการกำหนดข้อบังคับทางเทคนิค จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามข้อตกลง ว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ซึ่งยังไม่แสดงผลเป็นการกีดกันทางการค้าอย่างชัดเจน ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมภายในประเทศ และการค้าระหว่างประเทศ ประเทศไทยควรจะดำเนินมาตรการเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ เพื่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน จึงเสนอให้มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ และใช้มาตรการภาษี หรือปรับปรุงกฎหมายภายในที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้การดำเนินมาตรการเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จะต้องอยู่ภายใต้กรอบขององค์การการค้าโลกด้วย