Abstract:
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของประเทศ วิธีวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical analysis) เป็นอีกวิธีหนึ่งในหลายวิธีที่นักลงทุนเลือกใช้ในการลงทุน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาเปรียบเทียบผลตอบแทน ของเครื่องมือทางเทคนิคในการลงทุน เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือทางเทคนิคในตลาดหลักทรัพย์ฯ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้นำเครื่องมือทางเทคนิคที่นิยมใช้กัน 3 วิธี คือ Relative strength index (RSI), moving average convergence divergence (MACD) และ modified stochastic มาทดสอบกับข้อมูลรายวันของดัชนีราคาหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET index) และราคาหลักทรัพย์ 10 หลักทรัพย์ตั้งแต่ ม.ค. 2539 ถึง ธ.ค. 2548 แบ่งการศึกษาออกเป็น 6 ช่วง ผลการทดสอบแสดงว่าเมื่อรวมต้นทุนการซื้อขายแล้ว เครื่องมือทางเทคนิคสามารถใช้ได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับดัชนีราคาหลักทรัพย์ฯ เมื่อเปรียบเทียบกับกลยุทธ์การซื้อแล้วถือ (Buy and hold strategy) วิธี MACD สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าในแนวโน้มขาลง ตลาด Side way และการลงทุนระยะยาว ส่วนวิธี Modified stochastic สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าในแนวโน้มขาลง และตลาด Side way สำหรับหลักทรัพย์ เครื่องมือทางเทคนิคที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าคือ วิธี RSI ในกลุ่มหลักทรัพย์ชั้นดีและหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในตลาด Side way และการลงทุนระยะยาว วิธี Modified stochastic ในกลุ่มหลักทรัพย์ชั้นดีในตลาด Side way และวิธี MACD ในกลุ่มหลักทรัพย์ชั้นดีและหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในการลงทุนระยะยาว การศึกษาส่วนที่สองเป็นการทดสอบพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์ด้วย Random walk model ในการใช้ ADF test ทดสอบสมมติฐานว่างเพื่อดูว่าชุดข้อมูลมี Unit root หรือไม่ ผลการศึกษาแสดงว่าข้อมูลราคาหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิเสธสมมติฐาน Unit root ที่ระดับนัยสำคัญ 5% ซึ่งแสดงโดยนัยว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคไม่สามารถใช้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
