Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบปริมาณฟลูออไรด์ที่เพิ่มขึ้นในผิวเคลือบฟันภายหลังการใช้น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและชนิดที่จำหน่ายในท้องตลาด อาสาสมัคร 68 คน ถูกคัดเลือกมาจากเด็กอายุ 8-14 ปี จากสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด จากนั้น แบ่งเด็กออกเป็นสองกลุ่มตามความเข้มข้นของปริมาณฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟันก่อนการวิจัย เก็บตัวอย่างผิวเคลือบฟันโดยใช้วิธีใช้กรดกัดบริเวณปลายฟันด้านริมฝีปากของฟันตัดแท้ซี่กลางบนที่ไม่มีรอยผุหรือรอยโรค ทั้งก่อนใช้และหลังใช้น้ำยาบ้วนปาก นำตัวอย่างผิวเคลือบฟันที่ได้ไปวิเคราะห์หาปริมาณฟลูออไรด์และปริมาณแคลเซียม ด้วยฟลูออไรด์อิเลคโทรด และเครื่องอะตอมมิกแอบซอพชันสเปคโทรโฟโตมิเตอร์ (atomic absorption spectrophotometer) ตามลำดับ ผลการวิจัยพบว่า ปริมาณฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟันที่เพิ่มขึ้นจากการใช้น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีปริมาณเฉลี่ย 4,708.46 +- 878.10 ส่วนในล้านส่วน ซึ่งไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P>0.05) เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำยาบ้วนปากที่จำหน่ายในท้องตลาดที่มีปริมาณฟลูออไรด์ใกล้เคียงกัน มีค่าเฉลี่ย 4,548 +- 872.00 ส่วนในล้านส่วน จากผลการวิจัยสรุปว่าน้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ทั้งสองชนิดให้ผลเท่าเทียมกันในด้านการเพิ่มปริมาณฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟัน