Abstract:
ชุมชนโดยรอบสถาบันศึกษามีรูปแบบของการใช้พื้นที่ที่ซ้อนทับกัน ระหว่างกิจกรรมที่เกื้อหนุนและพึ่งพิงกันภายในตัวชุมชนเอง และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษา ปรากฏเป็นรูปแบบของการใช้ประโยชน์ที่ดินและอาคาร รูปแบบกิจกรรมการสัญจร ตลอดจนรูปแบบกิจกรรมการจับจองพื้นที่สาธารณะต่างๆ ที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา ตลอดจนตามประเภทของผู้เข้ามาใช้พื้นที่ ซึ่งมีทั้งคนในชุมชน คนจาสถาบันการศึกษาและคนจากที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รูปแบบการใช้พื้นที่ที่เกิดขึ้นนั้น สามารถดำเนินควบคู่กันไปอย่างทั้งสอดคลองหรือขัดแย้งซึ่งกันและกัน ตามดุลยภาพของความสัมพันธ์ทางกายภาพ เศรษฐกิจและสังคมที่ชุมชนมีต่อสถาบันการศึกษา การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแผนที่การบันทึกรูปแบบการใช้พื้นที่ ของชุมชนโดยรอบสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ อย่างเป็นระบบตามช่วงเวลาต่างๆ ทั้งกิจกรรมการสัญจร ตลอดจนการจับจองพื้นที่สาธารณะของคนเดินเท้า ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ลักษณะทั่วไปทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคมของชุมชน เพื่อเสนอแนะแนวทางในการวางแผนชุมชนเพื่อรองรับศักยภาพและปัญหา ที่พบจากการศึกษารูปแบบการใช้พื้นที่ดังกล่าว จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถสร้างวิธีการเก็บข้อมูลเชิงประจักษ์ของรูปแบบการใช้พื้นที่ของชุมชนโดยรอบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ได้อย่างเป็นระบบ ผลการศึกษาพบว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินและอาคารในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ทั้งการเพิ่มขึ้นของพื้นที่พักอาศัยและพาณิชยกรรมเพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ของนักศึกษา การรวมตัวของกลุ่มคนหลากหลายประเภทในพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ กันโดยเฉพาะคนเดินเท้า ทั้งการจับจองพื้นที่ทำกิจกรรมและการเลือกเส้นทางนิยมสัญจร ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละช่วงเวลาเปิดและปิดภาคเรียน โดยเฉพาะในบริเวณที่รองรับกิจกรรมของนักศึกษา แต่จะไม่พบการเปลี่ยนแปลงในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่กิจกรรมของชุมชนดั้งเดิมโดยรอบ นอกจากนี้ สภาพของทางเท้าและศักยภาพของมุมมอง ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดรูปแบบและปริมาณการใช้พื้นที่อีกด้วย การวางแผนพัฒนาพื้นที่ชุมชนโดยรอบสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ เพื่อรองรับศักยภาพและปัญหาที่เกิดขึ้น อาจทำได้โดยการพัฒนาปรับและเปลี่ยนรูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินและอาคาร ให้สอดคล้องตามศักยภาพของการเข้าใช้พื้นที่ของคนเดินเท้ามากยิ่งขึ้นกล่าวคือ บริเวณที่มีการสัญจรและจับจองหนาแน่น ก็สมควรได้รับการส่งเสริมให้เป็นพื้นที่พาณิชยกรรมที่มีคุณภาพได้ ในขณะที่พื้นที่พักอาศัยควรส่งเสริมให้พัฒนาขึ้นในบริเวณที่เงียบกว่ารวมทั้งสนับสนุนการเดินเท้าในพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ โดนการพัฒนาคุณภาพทางเท้าและพื้นที่ว่างสาธารณะรายทางที่เหมาะสมสำหรับการเดินอย่างปลอดภัย และเอื้อต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ-สังคมที่ดี เพื่อสร้างความหลากหลาย และความมีชีวิตชีวาของพื้นที่โดยกลุ่มคนจากทั้งภายในและโดยรอบสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ