dc.contributor.author |
ชมนาด ศีติสาร |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะอักษรศาสตร์ |
|
dc.coverage.spatial |
ญี่ปุ่น |
|
dc.date.accessioned |
2010-09-11T08:11:42Z |
|
dc.date.available |
2010-09-11T08:11:42Z |
|
dc.date.issued |
2545 |
|
dc.identifier.citation |
วารสารอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 31,1(ม.ค.-มิ.ย. 2545),83-104 |
en |
dc.identifier.issn |
0125-4820 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/13455 |
|
dc.description.abstract |
ความสนใจทางด้านคติชนในประเทศญี่ปุ่นเริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 หรือ ปลายสมัยเอโดะ ศูนย์กลางของการศึกษาส่วนใหญ่ได้แก่นักปราชญ์แห่งกลุ่ม “โคะกุงะกุ” (กลุ่มศึกษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ) เช่น โมะโตะโอะริ โนะรินะงะ ฮิระตะ อะท์ซุตะเนะ เป็นต้น ความตื่นตัวในการอนุรักษ์ข้อมูลคติชนลดลงเมื่อเข้าสู่สมัยเมจิ เนื่องจากอิทธิพลของแนวคิดปรับปรุงประเทศแบบตะวันตก อย่างไรก็ดี วิทยาการใหม่ๆ ที่เข้ามาในญี่ปุ่นในช่วงดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมานุษยวิทยาก็ได้กระตุ้นความสนใจและวางรากฐาน การศึกษาวัฒนธรรม จนกระทั่งเกิดนักวิชาการคนสำคัญ ได้แก่ ยะนะงิตะ คุนิโอะ ผู้วางรากฐานการศึกษาคติชนอย่างเป็นระบบให้แก่ญี่ปุ่น ยะนะงิตะให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเกษตรกรซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศมาก เพระเขาคิดว่าจะเป็นแนวทางนำไปสู่การทำความเข้าใจแก่นแท้ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น นอกจากนี้ จุดเด่นของแนวคิดของเขาคือ เน้นให้นำวิชาการไปใช้ในทางปฏิบัติ ขอบข่ายการศึกษาคติชนของเขาจึงมีเนื้อหาครอบคลุมในแทบทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต แต่ก็มีข้อเสียคือไม่มีทฤษฎีที่ชัดเจน ตลอดจนมีความคลุมเครือในการนิยามศัพท์เฉพาะ อันเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่นักคติชนในปัจจุบันต้องนำมาศึกษาวิเคราะห์ต่อไป |
en |
dc.description.abstractalternative |
The interest in folklore in Japan began in the late 18th century (late Edo Period). The center of the study was mostly among the group of scholars named “Kokugaku” (an ancient Japanese culture study group) such as Motoori Norinaga, Hirata Atsutane, etc. At the beginning of the Meiji Period, the motivation to collect folk materials was lessened by the influence which westernization. However, the new knowledge, especially anthropology which enteried Japan in that period, stimulated interest and laid the foundation for the study of culture. The result of this was that an important scholar named Yanagita Kunio established the systematic framework for folk study in Japan. Yanigita gave high importance to the life-style of the peasants, who were the majority of Japanese population. This was because he believed that it could be a way to understand the root of Japanese culture. Moreover, by stressing the practical application of knowledge his studies cover nearly all aspects of life. However, the weak points are that his work has no clear theory and his technical terms and definition are vague. These are big problems that folklorists at the present have to investigate further. |
en |
dc.format.extent |
2279833 bytes |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.language.iso |
th |
es |
dc.publisher |
คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.subject |
คติชาวบ้าน -- การศึกษาและการสอน -- ญี่ปุ่น |
en |
dc.subject |
วัฒนธรรมญี่ปุ่น |
en |
dc.subject |
ญี่ปุ่น -- ความเป็นอยู่และประเพณี |
en |
dc.title |
การศึกษาคติชนในประเทศญี่ปุ่นสมัยเอโดะถึงสงครามโลกครั้งที่สอง |
en |
dc.title.alternative |
Folklore studies in Japan : from the Edo period to the Second World War |
en |
dc.type |
Article |
es |
dc.email.author |
Chomnard.S@Chula.ac.th |
|