Abstract:
การศึกษาทางคลินิกนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบอัตราการยึดติดของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันระหว่างการใช้สารยึดติดเซลฟ์เอทช์กัดผิวฟันกับกรดฟอสฟอริกกัดผิวฟัน โดยศึกษาบนฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่ง ภายในขากรรไกรเดียวกันของบุคคลเดียวกัน จำนวน 95 คู่ฟัน ที่มีลักษณะตรงตามเกณฑ์คัดเข้า ในเด็กอายุ 6-8 ปี จำนวน 77 คน โดยจัดตัวอย่างเข้าทำการเคลือบหลุมร่องฟันด้วยวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันชนิดแข็งตัวด้วยแสงคอนไซส์ (บริษัทสามเอ็มเด็นทอลโปรดักท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา) ด้วยการสุ่มแบบบล็อก ให้ฟันข้างหนึ่งได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันโดยวิธีมาตรฐาน ซึ่งใช้กรดฟอสฟอริกชนิดเจลกัดผิวฟัน (กลุ่มควบคุม) ส่วนฟันอีกข้างหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มศึกษาได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันโดยใช้สารยึดติดเซลฟ์เอทช์กัดผิวฟัน (Adper Prompt, บริษัทสามเอ็มเด็นทอลโปรดักท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา) เป่าลมจนแห้ง ก่อนทาวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันและฉายแสงติดตามผลการยึดติดของวัสดุและการผุของฟันที่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันที่ระยะเวลา 6 เดือน โดยทันตแพทย์อีกคนที่ถูกปิดบังไม่ให้ทราบว่าตัวอย่างที่ตรวจอยู่ในกลุ่มใด เมื่อสิ้นสุดการศึกษาคงเหลือจำนวนตัวอย่าง 88 คู่ฟัน (176 ซี่) คิดเป็นร้อยละ 92.63 ของตัวอย่างเมื่อเริ่มศึกษา พบว่าอัตราการยึดติดทั้งซี่ของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันในกลุ่มศึกษาต่ำกว่าในกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 (p-value = .000) และทั้งสองกลุ่มต่างไม่พบการผุของฟันที่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันเลย สรุปผลการศึกษาได้ว่า วัสดุเคลือบหลุมร่องฟันคอนไซส์ที่ใช้สารยึดติดเซลฟ์เอทช์ (Adper Prompt) กัดผิวฟันมีอัตราการยึดติดในหลุมร่องฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่งที่ระยะเวลา 6 เดือน ต่ำกว่าเมื่อกัดผิวฟันด้วยกรดฟอสฟอริก