Abstract:
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆกับการเลือกวิธีการบัญชีสัญญาเช่าระยะยาว สำหรับปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย อัตราส่วนการก่อหนี้ที่วัดจากอัตราส่วนหนี้สินระยะยาวต่อทุน และต้นทุนทางการเมืองวัดจากขนาดสินทรัพย์รวมกับอัตราภาษีเงินได้ที่แท้จริง กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาคือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2548 ยกเว้นบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงิน และบริษัทที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ กลุ่มตัวอย่างได้เลือกโดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ข้อมูลทุติยภูมิได้เก็บรวบรวมผ่านทางบการเงินรวม กลุ่มตัวอย่างที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลได้ครบถ้วนสมบูรณ์ได้จำนวน 101 บริษัท ประกอบด้วย กิจการซึ่งเช่าสินทรัพย์ภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานจำนวน 82 แห่ง และกิจการซึ่งเช่าสินทรัพย์ภายใต้สัญญาเช่าการเงินจำนวน 19 แห่ง การศึกษาครั้งนี้ใช้ทั้งสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน (การวิเคราะห์ความถดถอยโลจิสติค) เพื่อใช้ในการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตาม ผลการศึกษาเชิงประจักษ์พบว่า อัตราส่วนหนี้สินระยะยาวต่อทุนมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการเลือกวิธีการบัญชีสัญญาเช่าดำเนินงานของผู้บริหาร ส่วนขนาดสินทรัพย์รวมและอัตราภาษีเงินได้ที่แท้จริงไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับ 0.05 ตัวแปรอิสระทั้งสามตัวสามารถอธิบายความสัมพันธ์ที่มีต่อการเลือกวิธีการบัญชีสัญญาเช่าระยะยาวได้ 12.7% นอกจากนี้ผลการทดสอบความสามารถในการพยากรณ์ได้ 81.2%