Abstract:
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางประชากร เศรษฐกิจและ สังคม พฤติกรรมเสี่ยงและภาวะแวดล้อม ทัศนคติต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน และความรู้เกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์ โรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กับการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนระดับอาชีวศึกษา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่มีอายุระหว่าง 20-24 ปี จำนวน 540 คน วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยใช้จำนวน ร้อยละ และค่าเฉลี่ย และใช้สถิติเชิงวิเคราะห์การจำแนกพหุในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตาม ผลการศึกษาคุณลักษณะทางประชากรของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า 60% เป็นนักเรียนหญิง กลุ่มตัวอย่างเกือบทั้งหมดมีอายุอยู่ในช่วง 20-21 ปี และมีจำนวนพี่น้องโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1.39 คน ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่จะพักอาศัยอยู่กับบิดามารดา และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 3,752.72 บาท ในขณะที่ครอบครัวจะมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 26,444.55 บาท
โดยนักเรียนเกือบครึ่งมีบิดาที่มีการศึกษาสูงกว่ามารดา และนักเรียนส่วนใหญ่จะมีบิดามารดาที่ยังคงสมรสและอยู่ด้วยกัน สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงและภาวะแวดล้อม พบว่า นักเรียนมากกว่าครึ่งมีพฤติกรรมการดื่มสุรา และมีนักเรียน 7.8% เคยใช้สารเสพติดมาก่อน ในขณะที่นักเรียน 45.4% เคยเที่ยวสถานเริงรมย์ และนักเรียนมากกว่าครึ่งหนึ่งมีพฤติกรรมการดูสื่อลามก นอกจากนั้นยังพบว่า นักเรียน 68.9% มีเพื่อนที่มีประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ในขณะที่นักเรียน 57.6% มีความรู้เกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์ โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในระดับปานกลาง โดยที่พบว่า นักเรียน 43.1% เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน อย่างไรก็ตามนักเรียนส่วนมากไม่เห็นด้วยต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ โดยวิธีวิเคราะห์ด้วยการจำแนกพหุ (MCA) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 พบว่า ตัวแปรอิสระที่นำมาวิเคราะห์ทั้ง 12 ตัว สามารถอธิบายความแปรผันของตัวแปรตามได้ 46.5% โดยตัวแปรที่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียน ทั้งก่อนและหลังควบคุมตัวแปรอิสระอื่นๆ ทุกตัว ได้แก่ การดื่มสุรา การใช้สารเสพติด การเที่ยวสถานเริงรมย์ การดูสื่อลามก การมีเพื่อนที่มีประสบการณ์เพศสัมพันธ์ ทัศนคติต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน และความรู้เกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์ โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์