Abstract:
การบังคับใช้บทบัญญัติของกฎหมายที่มีโทษทางอาญาที่ใช้กับผู้บริหารนิติบุคคลที่กระทำความผิด เกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ยังขาดประสิทธิภาพ เพราะข้อจำกัดในการแสวงหาพยานหลักฐาน และหลักพิสูจน์การกระทำความผิดทางอาญาให้ปราศจากข้อสงสัย สร้างภาระแก่การดำเนินคดีอาญาของฝ่ายรัฐจนเกินสมควร แม้ว่าจะมีการกำหนดข้อสันนิษฐานในเรื่องความรับผิดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้กับการกระทำความผิดทุกกรณีได้ การแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติที่เกี่ยวกับข้อสันนิษฐานทางกฎหมาย เพื่อกำหนดภาระการพิสูจน์ให้แก่ผู้บริหารนิติบุคคล เพื่อยืนยันความโปร่งใสของการบริหาร จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายอาญามีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรม เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสิงคโปร์กับประเทศไทย พบว่า โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์มีการกำหนดข้อสันนิษฐานมาใช้ในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรม เกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ผู้วิจัยเห็นว่า ควรนำบทบัญญัติดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการพิจารณาเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมข้อสันนิษฐาน เกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้บริหารนิติบุคคลในการกระทำความผิด เกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ในลักษณะที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายของไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น