Abstract:
ตำบลหายยาเป็นตำบลที่เก่าแก่และเป็นต้นกำเนิดงานหัตถกรรมเครื่องเงินของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ชุมชนบ้านวัวลาย ซึ่งมีประวัติความเป็นมาของชุมชนที่ยาวนาน และมีพัฒนาการของการเปลี่ยนแปลงชุมชนมาโดยตลอด ส่งผลให้สภาพชุมชนในปัจจุบันมีสภาพค่อนข้างเสื่อมโทรม และขาดเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชน นำมาซึ่งปัญหาของสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ เนื่องจากสินค้าหัตถกรรมของชุมชนในปัจจุบันไม่มีผู้สนใจและไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ เนื่องจากมีพื้นที่ขายสินค้าหัตถกรรมแห่งใหม่เกิดขึ้น ซึ่งกว้างขวางและได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐทำให้หัตถกรรมเครื่องเงิน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษดังเดิม เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถึชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ในชุมชน เกิดความเสื่อมโทรม อีกทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆในพื้นที่ ไม่เหมาะสมต่อรูปแบบกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นสภาพอาคาร ถนน ทางเดินเท้า การสัญจร ที่ว่าง ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมที่เสื้อมโทรม ส่งผลให้พื้นที่ชุมชนหัตถกรรม ตำบลหายยา ไม่เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เหมาะสมและเป็นการลดคุณค่าของพื้นที่ จากการวิเคราะห์ศึกษาข้อมูลโดยการสำรวจศักยภาพพื้นที่ และจัดทำแบบสอบถามประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับพื้นที่ชุมชนหัตถกรรม ตำบลหายยา และวิเคราะห์ศักยภาพ ปัญหา ข้อจำกัดและทัศนคติต่อการฟื้นฟู เพื่อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงฟื้นฟูที่ชุมชนหัตถกรรม ตำบลหายยา ที่เหมาะสม
ผลจากการวิเคราะห์ศักยภาพบทบาที่เหมาะสมต่อย่านชุมชนหัตถกรรม ตำบลหายยา พบว่าบทบาทที่เหมาะสมต่อย่านชุมชนหัตถกรรมวัวลาย คือ "ย่านวิถึชีวิตชุมชนช่างหัตถกรรมเครื่องเงินและถนนสายหัตถศิลป์ล้านนา เชียงใหม่" เนื่องจากศักยภาพของชุมชน ที่เป็นชุมชนช่างหัตถกรรมดั้งเดิม และมีถนนสายหลักในชุมชนที่ผ่านกลางย่านศูนย์กลางชุมชนที่เป็นที่ตั้งของวัดสำคัญในพื้นที่ ทำให้พื้นที่สะดวกต่อการเข้าถึงและเป็นจุดเด่นในการฟื้นฟูพื้นที่ให้เกิดความน่าสนใจ โดยเสนอแนะวิธีการอนุรักษ์และฟื้นฟูแบบ ซึ่งแบ่งระดับการฟึ้นฟูเป็น 2 ระดับ ได้แก่ การปรับปรุงบูรณะอาคารเดิมให้อยู่ในสภาพดี และอาจมีการปรับปรุงรื้อถอนอาคารที่สร้างความเสื่อมโทรมให้กับพื้นที่ เพื่อสร้างสิ่งสชุมชนยังขาดอยู่ และอีกแนวทางในการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินคือ การกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อส่งเสริมให้พื้นที่เป็นถนนสายหัตถศิลปของเชียงใหม่ ที่มีสินค้าหัตถกรรมพิ้นเมืองจำหน่ายตลอดถนนวัวลาย โดยการใช้มาตรการในการบังคับกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องให้เปลี่ยนรูปแบบกิจการ จนเป็นกิจการเกี่ยวกับหัตถกรรมทั้งพื้นที่ ซึ่งในการปรับปรุงฟื้นฟูเมืองดังกล่าวมีการเสนอวิธีการรื้อล้างพื้นที่ สำหรับอาคารที่มีศักยภาพการพัฒนาต่ำและทำลายภาพลักษณ์ของพื้นที่ เพื่อรองรับกับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามแนวทางดังกล่าวย่อมกระทบต่อผลประโยชน์ของเจ้าของที่ดินและอาคาร จึงได้เสนอแนวทางการดำเนินการโดยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีส่วนร่วมในการพัฒนาในลักษณะหุ้นส่วน และกลยุทธ์ในเรื่องของพื้นที่และการลงทุนสำหรับการพัฒนาพื้นที่ รวมทั้งกำหนดระยะช่วงเวลาในแต่ละขั้นตอนของการดำเนินการให้มีความเป็นไปได้และเหมาะสมต่อศักยภาพพื้นที่มากที่สุด