Abstract:
พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มีความสำคัญในการพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาใน คดีอาญา ดังจะเห็นได้จาก พยานหลักฐานในสถานที่เกิดการกระทำความผิด เช่น เล็บ, เส้นผมหรือขน, คราบเลือด, คราบอสุจิ ฯลฯ สามารถนำไปตรวจพิสูจน์ได้โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อทราบได้ว่า ผู้ใดเป็นผู้กระทำความผิด การนำพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาใช้เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา ของไทยในปัจจุบันยังมีปัญหาอยู่หลายประการ เช่น ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐใน การบังคับให้ทำการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือบังคับเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจประเภท เลือด เนื้อเยื่อ ฯลฯ จากร่างกายผู้ต้องหา, ปัญหาเกี่ยวกับมาตรฐานการรับฟังและชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน ทางวิทยาศาสตร์เป็นต้น ดังนั้นรัฐจึงได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา (ปรับปรุงกฎหมายพยานหลักฐาน) ขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ ผู้เขียนได้วิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยศึกษาเปรียบเทียบกับแนวคิดและหลักเกณฑ์การพิสูจน์ ข้อเท็จจริงในคดีอาญา โดยพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ของต่างประเทศ จากการศึกษาพบว่า ร่าง พระราชบัญญัติดังกล่าวมีหลักเกณฑ์ที่สอดคล้องกับต่างประเทศในประเด็นสำคัญ เช่น การบัญญัติกฎหมาย ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐบังคับเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากร่างกายผู้ต้องหาได้โดยไม่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ เสรีภาพของบุคคลซึ่งได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ การให้รัฐเป็นฝ่ายรับภาระด้านค่าใช้จ่ายในการ ตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ผู้เขียนเห็นว่า หากร่างพระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้ จะช่วยให้การนำ พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีอาญาของไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น.