Abstract:
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเปิด ซึ่งมีการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนย่อมส่งผลต่อมูลค่าการค้าและเศรษฐกิจโดยรวมอย่างเลี่ยงไม่ได้ การแทรกแซงค่าเงินจึงถูกคาดหมายว่าน่าจะเป็นหนทางที่ช่วยลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจจริง แต่จากประสบการณ์การแทรกแซงค่าเงินในอดีตของไทยและกรณีศึกษาการแทรกแซงค่าเงินในต่างประเทศที่ยังมิอาจหาข้อสรุปที่แน่ชัด จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่าแท้จริงแล้วผลกระทบจากการแทรกแซงค่าเงินเป็นเช่นไร การศึกษาแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลา คือ ช่วงแรก คือ ภาพรวมตั้งแต่ พ.ศ. 2542 ถึง พ.ศ. 2550 ช่วงที่สอง คือ พ.ศ. 2542-2545 ช่วงที่สาม คือ 2546-ปลายปี 2549 และช่วงที่สี่ คือ ตั้งแต่กันสำรองเงินทุนระยะสั้นถึงปลายปี 2550 โดยใช้แบบจำลอง GARCH ในการประมาณความสัมพันธ์ระหว่างการแทรกแซงค่าเงินที่มีต่อระดับและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละช่วงเวลา ร่วมกับตัวแปรอิสระอื่น คือ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ส่วนต่างระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนที่ทำการซื้อขายที่ตลาดในประเทศและนอกประเทศ จากนั้นจึงทดสอบความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างตัวแปรโดยวิธี Granger Causality test และพิจารณาถึง shocks ที่กระทบแต่ละตัวแปร ด้วย Impulse Response Function ผลการศึกษาถึงผลกระทบจากการแทรกแซงระดับรายสัปดาห์ให้ผลที่แตกต่างกันตามแต่ละช่วงเวลา แต่โดยภาพรวมแล้วไม่มีนัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงระดับอัตราแลกเปลี่ยนและทำให้ความผันผวนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การแทรกแซงภายหลังจากที่มีมาตรการกันสำรองเงินทุนระยะสั้นเป็นต้นมาให้ผลที่น่าพอใจเมื่อพิจารณาด้วย Impulse Response Function กล่าวคือ สามารถช่วยลดระดับความผันผวนลงได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนไปจากที่เป็นอยู่ได้ และเมื่อทดสอบความเป็นเหตุเป็นผลด้วย Granger Causality test พบว่า ลักษณะความสัมพันธ์เป็นไปในทิศทางเดียว คือ การแทรกแซงค่าเงินและส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสาเหตุให้เกิดความผันผวน