dc.contributor.advisor |
กุลยา พิสิษฐ์สังฆการ |
|
dc.contributor.author |
ประภาศรี ปัญญาวชิรชัย |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา |
|
dc.date.accessioned |
2011-08-15T08:56:41Z |
|
dc.date.available |
2011-08-15T08:56:41Z |
|
dc.date.issued |
2550 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/15676 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550 |
en |
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยคัดสรรที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมยกพวกตีกันระหว่างสถาบันของนักเรียนอาชีวศึกษาชาย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนอาชีวศึกษาชาย จำนวน 300 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีพฤติกรรมยกพวกตีกันระหว่างสถาบัน จำนวน 150 คน และกลุ่มที่ไม่มีพฤติกรรมยกพวกตีกันระหว่างสถาบัน จำนวน 150 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบวัดความก้าวร้าว แบบวัดการเห็นคุณค่าในตนเอง แบบวัดการเห็นคุณค่าในตนเองตามกลุ่ม แบบวัดเชาวน์อารมณ์ แบบวัดการเป็นอิสระจากบรรทัดฐานของกลุ่มเพื่อน และแบบวัดอิทธิพลของสื่อต่อการยกพวกตีกัน การวิเคราะห์ข้อมูลทำขึ้นโดยใช้สถิติการจำแนกกลุ่ม (Discriminant Analysis) ด้วยวิธีการคัดเลือกตัวแปรเข้าสมการจำแนกกลุ่มแบบ Stepwise โดยใช้การทดสอบค่าสถิติ Wilks’ Lambda เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกตัวแปรที่ช่วยจำแนกกลุ่มตัวอย่างที่มีและไม่มีพฤติกรรมยกพวกตีกันระหว่างสถาบันออกจากกัน ผลการวิจัย แสดงว่า มีปัจจัยที่ทดสอบสี่ปัจจัยที่สามารถจำแนกกลุ่มตัวอย่างที่มีและไม่มีพฤติกรรมยกพวกตีกันระหว่างสถาบันออกจากกัน ปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่ ความก้าวร้าว การเป็นอิสระจากบรรทัดฐานของกลุ่มเพื่อน การเปิดรับอิทธิพลของสื่อต่อการยกพวกตีกัน และเชาวน์อารมณ์ของกลุ่มตัวอย่าง โดยทั้งสี่ปัจจัยสามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และมีความถูกต้องในการพยากรณ์อำนาจจำแนกรวมร้อยละ 80.0 |
en |
dc.description.abstractalternative |
The purpose of this research study was to examine factors related to inter-institutional rumbles in male vocational students in Bangkok Metropolitan and perimeter areas. The participants were 300 male vocational students who were classified into 2 groups: 150 participants who have engaged in inter-institutional rumbles at least once in the last six months and 150 participants who have never had such experiences. Research instruments were Personal Data Questionnaire, Aggression Questionnaire, Self-esteem Scale, Collective Self-esteem Questionnaire, Emotional Intelligence Scale, Independence from Peer Norms Scale, and Media Influence Questionnaire. Data were analyzed by using the Discriminant Analysis with a stepwise method. The Wilks’ Lambda was examined to determine the factors that helped predict inter-institutional rumbles in these participants. Findings indicated that four factors helped predict inter-institutional rumbles in male vocational students. These factors were: aggression, independence from peer norms, reception of media influence, and emotional intelligence. These factors significantly discriminated participants with and without inter-institutional rumbles and yielded the total predictive discriminant efficiency of 80.00 percent. |
en |
dc.format.extent |
7428192 bytes |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.language.iso |
th |
es |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.14457/CU.the.2007.1415 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.subject |
นักเรียนอาชีวศึกษา |
en |
dc.subject |
การทะเลาะวิวาท |
en |
dc.title |
ปัจจัยคัดสรรที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมยกพวกตีกันระหว่างสถาบันของนักเรียนอาชีวศึกษาชาย |
en |
dc.title.alternative |
Selected factors related to inter-institutional rumbles in male vocational students |
en |
dc.type |
Thesis |
es |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
es |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
es |
dc.degree.discipline |
จิตวิทยาพัฒนาการ |
es |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.email.advisor |
Kullaya.D@chula.ac.th, Kullaya@gmail.com |
|
dc.identifier.DOI |
10.14457/CU.the.2007.1415 |
|