Abstract:
วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความร่วมมือระหว่างประเทศของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาเรื่องเอชไอวี/เอดส์ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาความมั่นคงของโลกยุคใหม่ โดยมุ่งศึกษาความก้าวหน้าในการดำเนินงานของรัฐบาลไทยตามปฏิญญาว่าด้วยพันธกรณีเรื่องโรคเอดส์ ในช่วงปี พ.ศ. 2544-2548 เฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ตลอดจนศึกษาถึงผลการดำเนินงานและอุปสรรคที่เกิดขึ้น กรอบความคิดที่ใช้ คือ แนวคิดความร่วมมือระหว่างประเทศในมุมมองของ Neoliberalism และแนวคิดการยึดหลักสิทธิเป็นพื้นฐาน จากการศึกษาพบว่า การดำเนินงานของรัฐบาลมีความก้าวหน้าในเชิงนโยบายส่วนหนึ่งสอดคล้องกับพันธกรณีในปฏิญญาฯ กล่าวคือ รัฐบาลมีนโยบายขยายโอกาสการเข้าถึงยาต้านไวรัสระดับชาติให้แก่ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์ 50,000 ราย ในปี พ.ศ. 2547 และมีนโยบายปกป้องสิทธิแรงงานในสถานประกอบกิจการ โดยมีประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องแนวปฏิบัติการป้องกันและจัดการปัญหาเอดส์ในสถานประกอบกิจการ ในปี พ.ศ.2548 รวมทั้งการอนุมัติให้ยกร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคเอดส์โดยเฉพาะ ในปี พ.ศ.2548 อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานทางด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลยังไม่มีประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่รัฐบาลไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เพื่อยับยั้งการละเมิดสิทธิ การส่งเสริมระบบเศรษฐกิจการค้าเสรีที่ไม่ส่งเสริมสิทธิ การจัดสรรงบประมาณไม่ทั่วถึงกลุ่มประชากรชายขอบ การขาดการมีส่วนร่วมของเจ้าของสิทธิในกระบวนการตัดสินใจ การไม่มีข้อมูลที่ดีขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของประชาชนและสิทธิประชาชน เป็นต้น ซึ่งผู้วิจัยพบว่าอุปสรรคของดำเนินงาน คือ นโยบายรัฐบาล งบประมาณ ทัศนคติ และระบบราชการ