Abstract:
การวิจัยเชิงเปรียบเทียบการออกแบบเรขศิลป์งานอีเว้นท์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคชายและหญิง กรณีศึกษา ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นการศึกษาวิจัยแบบวิธีผสม (Mixed-method research) ซึ่งเป็นลักษณะการวิจัยที่วิเคราะห์ข้อมูลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitaive analysis) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative analysis) ร่วมกัน โดยข้อมูลปฐมภูมิที่ได้เป็นการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ จากนั้นจึงนำข้อมูลเชิงคุณภาพมาวิเคราะห์ และใช้วิธีการหาข้อมูลเชิงปริมาณมาตรวจหาข้อมูลซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง โดยวัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ เพื่อหารูปแบบของเแนวทางการใช้สื่อ การใช้องค์ประกอบสำหรับการออกแบบและการนำเสนอ ในการจัดงานอีเว้นท์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคชายและกลุ่มผู้บริโภคหญิง กรณีศึกษาผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดำเนินการวิจัยโดยการศึกษา แนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของการออกแบบเรขศิลป์งานอีเว้นท์ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคชายและหญิง กรณีศึกษาผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากนั้นวิเคราะห์และคัดเลือกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นำไปสร้างแบบสอบถามให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและแก้ไข จากนั้นจึงให้กลุ่มผู้บริโภคชายและหญิงจำนวน 400 คน สรวจสอบและนำผลที่ได้มาวิเคราะห์และสรุปผล โดยแสดงรูปแบบตามลำดับจำนวนคะแนนสูงต่ำ และค่าเฉลี่ยตามลำดับที่มีการเลือกจากมากไปหาน้อย เมื่อสรุปผลการวิจัย การออกแบบเรขศิลป์งานอีเว้นท์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคชายและหญิง กรณีศึกษา ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว สามารถนำมาเป็นแนวทางในการออกแบบได้ดังนี้ 1. ในการใช้องค์ประกอบ สื่อ และแนวทางการออกแบบเรขศิลป์งานอีเว้นท์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคชายและหญิง กรณีศึกษาผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อสามารถระบุ องค์ประกอบ สื่อ และนวทางการออกแบบได้แล้ว และเปรียบเทียบผลการวิจัยที่ได้ จะสามารถทราบทันทีว่า การออกแบบนั้น ควรใช้ องค์ประกอบ สื่อ และแนวทางการออกแบบใดเป็นหลักเกณฑ์ การกำหนดตัวแปรเหล่านี้ทำให้กระบวนการทางการออกแบบ สามารถดำเนินการในขั้นตอนการสร้างสรรค์ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการออกแบบเพื่อใช้ในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น 2. การวิจัยเชิงเปรียบเทียบการออกแบบเรขศิลป์งานอีเว้นท์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคชายและหญิง กรณีศึกษาผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อวิจัยและนำผลของการวิจัยมาเปรียบเทียบความแตกต่างในการใช้องค์ประกอบ สื่อ และแนวทางการออกแบบแล้ว จะสามารถทราบได้ว่า พฤติกรรมต่างๆ ของกลุ่มผู้บริโภคในบางส่วนมีความเหมือนกัน มีความใกล้เคียงกันและอาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และรูปแบบของความชอบของผลิตภัณฑ์หรือการใช้งานนั้นๆ การวิจัยนี้สามารถช่วยให้การกำหนดแนวทางการออกแบบ และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกันเฉพาะกลุ่มได้ง่ายขึ้น