Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่าความแตกต่างของกำไร (ขาดทุน) สุทธิตามการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามวิธีราคาทุนที่รับรู้ในงบการเงินเฉพาะกิจการและวิธีส่วนได้เสียในงบการเงินรวมหลังการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 27 มีความเกี่ยวข้องต่อการตัดสินใจของนักลงทุนแตกต่างไปจากข้อมูลความแตกต่างของกำไร (ขาดทุน) สุทธิที่เกิดจากการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามวิธีราคาทุนและวิธีส่วนได้เสียที่เปิดเผยไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินก่อนการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 27 รวมทั้งอธิบายสาเหตุในมุมมองที่เกิดจากนักลงทุน วิธีการศึกษาใช้วิธีวิเคราะห์สหสัมพันธ์ การวิเคราะห์การถดถอยแบบภาคตัดขวาง โดยประยุกต์ตัวแบบของ Ohlson (1995) ทั้งนี้ทำการทดสอบก่อนและหลังมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 27 บังคับใช้ โดยใช้ข้อมูลรายปีของปี พ.ศ. 2549-2550 ทั้งแบบรวม แบบแยกรายปี และแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรม ผลการวิจัยพบว่า ความแตกต่างของกำไร (ขาดทุน) สุทธิตามการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามวิธีราคาทุนที่รับรู้ในงบการเงินเฉพาะกิจการและกำไร (ขาดทุน) สุทธิตามวิธีส่วนได้เสียในงบการเงินรวม มีความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ในขณะที่ความแตกต่างของกำไร (ขาดทุน) สุทธิที่เกิดจากการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามวิธีราคาทุนและวิธีส่วนได้เสียที่เปิดเผยไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินไม่มีความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ทั้งนี้ไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ข้อมูลซึ่งรับรู้ในงบการเงินมีความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ หรือสาเหตุที่ข้อมูลที่เปิดเผยไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินไม่มีความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจว่าเกิดจากการที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับตำแหน่งในการวางข้อมูล