Abstract:
ผู้วิจัยพบว่าการพัฒนาทางเทคโนโลยีเครือข่ายดำเนินไปอย่างรวดเร็วมากและกฎหมายที่มีอยู่สามารถปรับใช้ได้อย่างจำกัดกับกิจกรรมต่าง ๆ บนเครือข่ายอินเตอร์เนทไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม สันทนาการ และกิจกรรมเพื่อการพาณิชย์ผ่านเครือข่าย ผู้ใช้บริการอินเตอร์เนทจากสังคมเปิดย่ามคาดหวังว่าตนสามารถใช้สิทธิหรือเสรีภาพที่ตนมีหรือเคยมีอยู่ในเครือข่ายอินเตอร์เนทด้วย ในขณะที่ผู้ใช้บริการที่อยู่ในสังคมอื่นมีลักษณะเสรีน้อยกว่าามักจะคาดหวังว่าตนจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพที่ตนไม่เคยได้รับอย่างเต็มที ความพยายามที่จะให้มีกฎหมายที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลเครือข่ายเพื่อการสมาคม และสันทนาการนั้นประสบความล้มเหลวมาโดยตลอด ส่งผลให้สังคมเครือข่ายเป็นสังคมที่ปลอดจากการควบคุมของรัฐ และผู้ใช้เครือข่ายคาดหวังว่าจะสามารถใช้เเครือข่ายอินเตอร์เนทโดยปลอดจากการรบกวนของภาครัฐ ในส่วนของการดำเนินธุรกิจผ่านเครือข่ายนั้น ผู้วิจัยพว่าความพยายามสร้างระบบและวิธีการทางกฎหมายเพื่อกำกับการใช้เครือข่ายอินเตอร์เนทเพื่อการพาณิชย์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยเพิ่งจะมีการประชุมระหว่างประเทศเพียงครั้งแรกสำหรับเวทีต่าง ๆ ทั้งนั้น แต่ผู้วิจัยคาดว่าหลักกฎหมายในเวทีระหว่างประเทศจะพัฒนาไปได้เร็ว เนื่องจากมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการพาณิชย์อิเลคโทรนิคส์ สำหรับประเทศไทยผู้วิจัยเห็นว่ากรอบของกฎหมายที่เหมาะสมควรเป็นกฎหมายสนับสนุน ส่งเสริมการใช้เครือข่ายอินเตอร์เนทอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน เพื่อการสมาคมและสันทนาการมากกว่าการควบคุม แต่อาจจะต้องมีเงื่อนไขสำหรับการใช้เครื่อข่ายไปในทางที่ผิด เช่น อาชญากรรม หรือการละเมิดสิทธิเด็ก เป็นต้น ส่วนกรอบของกฎหมายเพื่อการพาณิชย์อิเลคโทรนิคส์นั้น ผู้วิจัยเห็นว่าควรจะกระทำในระดับระหว่างประเทศ และประเทศไทยควรจะเตรียมการสำหรับการเข้าร่วมการเจรจาหรือเตรียมการในด้านต่าง ๆ ในเวทีระหว่างประเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย