Abstract:
ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่เกิดจากผู้กระทำความผิดในลักษณะต่าง ๆ กัน คือ ผู้ค้าหรือผู้จำหน่าย ซึ่งอาจเป็นนายทุนหรือผู้ค้ารายย่อย ผู้ผลิตและผู้เสพ ผู้ที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาจึงอาจมองการแก้ไขปัญหาในลักษณะเน้นไปในแนวทางที่ตนรับผืดชอบอยู่โดยตรง เช่น แพทย์ก็มุ่งถึงเรื่องการให้การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะแสวงหามาตรการ และวิธีการปราบปรามที่มีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา จะเห็นว่าด้านการป้องกันเป็นสิ่งสำคัญ นักรัฐศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ นักสังคมสงเคราะห์ และผู้รับผิดชอบในการแก้ไข ปัญหาสังคม อาจเห็นว่าวิธีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเป็นแนวทางที่น่าจะแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งได้พิจารณานำไปดำเนินการแล้ว ในการควบคุมพืชเสพติดและส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนสำหรับชาวไทยภูเขา เป็นต้น แม้ว้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหายาเสพติด จะได้ยอมรับความสำคัญของมาตรการต่าง ๆ ดังกล่าว และประมวลเข้าด้วยกันเพื่อให้เป็นเครื่องมืออันมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัยหายาเสพติดอันร้ายแรงก็ตาม ก็ไม่อาจมองข้ามความสำคัญของมาตรการกฎหมายที่ใช้บังคับเพื่อการดำเนินคดี และการดำเนินคดีตามบทกฎหมายได้ตราบเท่าที่บุคคลบางจำพวก เช่น นายทุนผู้ผลิต หรือผู้จำหน่าย ยังมีบทบาทสำคัญ ในการก่อปัญหายาเสพติดให้แก่สังคมและประเทศชาติ การศึกษาการดำเนินคดียาเสพติดตามระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นการศึกษาเพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด ในด้านปราบปรามสามารถดำเนินการได้สมประโยชน์ตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมที่ปรากฏเป็นบทกฎหมาย รวมทั้งศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินคดีด้วย เพราะแม้จะมีมาตรการกฎหมายหรือบทกำหนดโทษที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพเพียงใด หากการดำเนินคดีไม่ราบรื่น หรือมีอุปสรรคด้วยประการต่าง ๆ อันเป็นเหตุไม่สามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้ตามกฎหมายแล้ว ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในลักษณะต่างๆ ก็จะสามารถพระทำความผิดได้ตามปกติต่อไปอีก และการแก้ไขปัญหายาเสพติดในด้านอื่น เช่น ป้องกัน หรือบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ แม้จะมีแผนงาน โครงการ และการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ ก็จะอยู่ในลักษณะ "ถมไม่เต็ม" ทั้งนี้เพราะการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยผู้กระทำความผิดที่รอดพ้นจากการถูกลงโทษ ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ในการศึกษาวิจัยนี้ ได้อาศัยข้อมูลประการสำคัญจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด การตีความหรือความเห็นของฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการวิวัฒนาการของกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดบางฉบับ เพื่อพิจารณาเจตนารมณ์ เนื้อหาสาระสำคัญของกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดแต่ละฉบับ ซึ่งจะช่วยให้ทราบแนวทางในการใช้กฎหมาย เพื่อดำเนินคดียาเสพติดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากเอกสารดังกล่าวแล้ว ได้ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งได้จากการวิจัยสนามโดยเสนอแบบสอบถามเพื่อทราบทัศนคติ และปัญหาต่าง ๆ ทั้งในด้านกฎหมายและการดำเนินการคดียาเสพติดจากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ และจากประชาชนทั่วไป โดยวิธีสุ่มตัวอย่างอีกด้วย ทั้งนี้ เพราะการศึกษาวิจัยด้านเอกสารอันมีลักษณะเป็นเชิงทฤษฎี ในการดำเนินคดียาเสพติดนั้น อาจเป็นผลให้สามารถสัมผัสได้เพียงเจตนารมณ์และแนวทางของกฎหมาย ในการดำเนินคดียาเสพติดเท่านั้น แต่ไม่อาจทราบข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับการใชข้บังคับกฎหมาย ตลอดจนอุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้นได้ข้อมูล ซึ่งได้จากการวิจัยสนาม จึงเป็นอุปกรณ์ซึ่งจะช่วยบ่งชี้ว่า บทบัญญัติของกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อการดำเนินคดีมีความเหมาะสมเพียงใด ผู้รับผิดชอบในการดำเนินคดีตามขั้นตอนต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรมมีแนวความคิด และความประสงค์อย่างไร เกี่ยวกับมาตรการกฎหมาย ซึ่งต้องใช้ในการดำเนินคดียาเสพติด รวมทั้งการทราบว่า การใช้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อการดำเนินคดีได้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายแต่ละเรื่องหรือไม่ด้วย จากการวิจัยภาคสนามพบว่าทั้งผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและประชาชนทั่วไปเห็นว่าปัญหาสำคัญที่สุด คือ เรื่องการใช้อิทธิพลคุ้มครองผู้กระทำความผิด ทั้งการให้ความคุ้มครองในการกระทำความผิดและการให้ความช่วยเหลือเมื่อผู้กระทำความผิดถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว การใช้อิทธิพลเหล่านี้มีทั้งอิทธิพลทางการเงิน และการให้ความช่วยเหลือตากาเจ้าหน้าที่ในหน่วยราชการและในคณะรัฐบาล ในส่วนของกระบวนพิจารณาคดีในศาลนั้น เนื่องจากคดียาเสพติดมีลกัษณะพิเศษแตกต่างจากคดีอาญาทั่วไป และทวีจำนวนมากขึ้น เห็นควรให้จัดตั้งศาลยาเสพติดหรือเปิดเป็นแผนกคดียาเสพติดประจำศาลขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อพิจารณาคดีเหล่านี้ให้เสร็จสิ้นโดยรวดเร็ว ทั้งประชาชนและผู้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 86 เห็นว่า ควรให้มีมาตรการยึดทรัพย์สินของนายทุนผู้ค้ายาเสพติด โดยให้ยึดทรัพย์สินเฉพาะที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้มาโดยสุจริต ผู้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายส่วนใหญ่มีความเห็นว่าอัตราการลงโทษผู้กระทำผิดคดียาเสพติดในปัจจุบันเหมาะสมดีแล้ว แต่ประชาชนส่วนหใญ่กลับมีความเห็นว่า ควรเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดให้หนักขึ้นไปอีก โดยเฉพาะแก่ผู้ผลิตและจำหน่ายยาเสพติด สำหรับกรณีที่กรมราชทัณฑ์ลดโทษหรืออภัยโทษ ปล่อยตัวผู้กระทำความผิดออกมาก่อนกำหนดตามคำพิพากษานั้น ผู้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเห็นว่า เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้กระทำผิดไม่เข็ดหลาย และหันกลับมากระทำผิดอีกทันทีที่พ้นโทษ