Abstract:
ที่มา โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์เกิดขึ้นเมื่อการทำงานของเบต้าเซลล์สร้างอินสุลินได้ไม่เพียงพอกับภาวะดื้ออินสุลิน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่อทั้งมารดาและทารก เรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์เป็นโปรตีนตัวใหม่ที่สร้างจากเนื้อเยื่อไขมันซึ่งมีผลต่อการทำงานของอินสุลินในหลายอวัยวะ สัมพันธ์กับภาวะดื้ออินสุลิน และระดับสูงขึ้นในหญิงที่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ วัตถุประสงค์ในการศึกษา เพื่อศึกษาว่าระดับเรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์มีความสัมพันธ์กับผลของการตั้งครรภ์ในหญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือไม่ และเพื่อประเมินความสัมพันธ์ระหว่างระดับเรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์ กับตัวบ่งชี้ภาวะดื้ออินสุลิน วิธีการศึกษา ผู้วิจัยตรวจวัดระดับเรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์ น้ำตาล ไขมัน อินสุลิน และประเมิน homeostasis model assessment (HOMA-1IR และ HOMA-2IR) และ QUICKI ในหญิงมีครรภ์ 532 คนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (ระดับน้ำตาลหลังรับประทานกลูโคส 50 กรัมผิดปกติ) การเกิดภาวะแทรกซ้อนในมารดาและทารกจะถูกบันทึกไว้ ผลการศึกษา ผู้หญิง 171 ราย (ร้อยละ 32) เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภาวะแทรกซ้อนของมารดาและทารกเกิดขึ้นจำนวน 219 ราย (ร้อยละ 41) และ 105 ราย (ร้อยละ 20) ตามลำดับ ระดับเรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์ที่สูงขึ้นมีความสัมพันธ์แบบแปรผันตรงกับระดับอินสุลิน, HOMA-1IR, HOMA-2IR, HOMA-%B, ไตรกลีเซอไรด์ และไตรกลีเซอไรด์/เอชดีแอล และสัมพันธ์แบบแปรผกผันกับ QUICKI และเอชดีแอล เมื่อแบ่งเป็น 3 กลุ่มตามระดับเรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์ ภาวะแทรกซ้อนของมารดาหรือทารกมีความสัมพันธ์แบบแปรผันตรงกับระดับ เรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์ สรุปผลการศึกษา หญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ที่มีระดับเรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์สูง มีความสัมพันธ์กับภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น การประเมินระดับเรตินอลบายด์ดิ้งโปรตีนโฟร์อาจนำมาเป็นเครื่องมือในการทำนายผลการตั้งครรภ์ในหญิงมีครรภ์ได้