Abstract:
ศึกษาเปรียบเทียบการเปิดตลาดบริการโทรคมนาคมระหว่างความตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการ (GATS) กับความตกลงเขตการค้าเสรีตามรูปแบบของสหรัฐอเมริกา (U.S. FTAs) โดยนำความตกลงที่สหรัฐอเมริกาได้ทำกับชิลีและสิงคโปร์มาเป็นต้นแบบในการศึกษา เพื่อให้ทราบถึงพันธกรณีที่เพิ่มเติมขึ้นในความตกลง U.S. FTAs เมื่อเปรียบเทียบกับความตกลง GATS จากการศึกษาเปรียบเทียบ ผู้เขียนพบว่า แม้ความตกลงทั้งสองรูปแบบจะมีจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน โดยต่างมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดการค้าระหว่างประเทศ โดยลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน เพื่อทำให้การค้าระหว่างประเทศมีความเป็นธรรมและเกิดความเท่าเทียม แต่จากการที่ความตกลงทั้งสองรูปแบบใช้แนวทางในการเจรจาที่แตกต่างกัน อีกทั้งจำนวนคู่เจรจาที่แตกต่างกัน จึงมีผลทำให้การเปิดเสรีบริการโทรคมนาคมตามความตกลง GATS และ U.S. FTAs มีความแตกต่างกัน โดยที่ความตกลง U.S. FTAs ประเทศคู่สัญญามีพันธกรณีมากกว่าที่กำหนดไว้ในความตกลง GATS ทั้งในด้านการเปิดตลาด กล่าวคือ มีการเปิดตลาดในสาขาบริการที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงด้านการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ซึ่งมีข้อกำหนดให้ประเทศคู่สัญญามีพันธกรณีมากกว่าที่ปรากฏอยู่ ในเอกสารอ้างอิงที่ใช้เป็นแนวทางในการกำหนดพันธกรณีตามความตกลง GATS ได้แก่ การกำหนดพันธกรณีเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ในด้านต่างๆ เช่น การขายต่อบริการ การใช้พื้นที่ร่วมกัน การคงสิทธิเลขหมาย อีกทั้งพันธกรณีเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ เป็นต้น ดังนั้นเมื่อทราบถึงพันธกรณีที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากความตกลง GATS แล้ว ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกความตกลง GATS และเป็นอีกประเทศหนึ่งที่สหรัฐอเมริกาให้ความสนใจเข้าทำความตกลง FTA จึงควรเตรียมความพร้อมในเปิดตลาดและการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตภายหลังทำความตกลง FTA กับสหรัฐอเมริกา