Abstract:
การทำงานของผู้สื่อข่าวในสถานการณ์ข้อพิพาททางอาวุธนั้น กลายเป็นงานที่เต็มไปด้วยอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปีมีผู้สื่อข่าวและบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมากที่ถูกฆ่า หรือไม่ก็ตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีจากรัฐและตัวตนที่มิใช่รัฐ ด้วยสาเหตุมาจากการทำงานตามวิชาชีพ ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์ในสงครามอิรักและสงครามอัฟกานิสถาน เป็นต้น จากปัญหาดังกล่าวนี้ จึงจำเป็นที่ต้องพิจารณาการให้ความคุ้มครองผู้สื่อข่าว โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 ฉบับที่ 3 เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเชลยศึก อนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 ฉบับที่ 4 เกี่ยวกับการคุ้มครองบุคคลพลเรือนในเวลาสงคราม พิธีสารเพิ่มเติมอนุสัญญาเจนีวาเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากข้อพิพาททางอาวุธระหว่างประเทศ ค.ศ. 1977 และพิธีสารเพิ่มเติมอนุสัญญาเจนีวาเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากข้อพิพาททางอาวุธ ที่ไม่มีลักษณะระหว่างประเทศ ค.ศ. 1977 ซึ่งในสนธิสัญญาเหล่านี้มีหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการให้ความคุ้มครองผู้สื่อข่าว เมื่อได้ศึกษาและพิจารณาแล้วพบว่า การบังคับใช้กลไกตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น กลไกในการตรวจตรา การนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษและการเยียวยาให้แก่ผู้สื่อข่าว ดังนั้น การนำมาตรการและกลไกที่มีอยู่ทั้งในระดับระหว่างประเทศ ภูมิภาคและภายในประเทศ อาทิ มติคณะมนตรีความมั่นคงที่ 1738 หรือกลไกศาลอาญาระหว่างประเทศ มาช่วยเสริมก็จะทำให้ผู้สื่อข่าวในสถานการณ์ข้อพิพาททางอาวุธได้รับความคุ้มครองที่ดีมากยิ่งขึ้น