Abstract:
ปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์อันเกิดจากการกระทำของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น ถือเป็นสภาพปัญหาที่สำคัญอันเกิดขึ้นในระบบการเมืองของประเทศไทย ปัจจุบันมีมาตรการเพื่อควบคุมตรวจสอบการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ปรากฏอยู่ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 โดยบัญญัติรับรองถึงหลักการขัดกันแห่งผลประโยชน์ไว้อย่างชัดเจนเพื่อนำมาใช้บังคับกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับชาติ และได้ระบุให้นำมาบังคับใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองส่วนท้องถิ่นด้วยโดยอนุโลม นอกจากนี้ ยังปรากฏถึงมาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางจริยธรรมอื่นๆ เพื่อใช้ในการป้องกันปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ด้วย ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของกรุงเทพมหานคร ถือเป็นตำแหน่งทางการเมืองซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “กรุงเทพมหานคร” ดังนั้น อาจเกิดการกระทำการที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในการบริหารราชการดังกล่าวขึ้นได้ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการในการควบคุมตรวจสอบการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ไว้เป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวที่เกี่ยวข้องในปัจจุบันมีอยู่เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางจริยธรรม จากการศึกษาวิจัยพบว่า การนำบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของรัฐธรรมนูญมาใช้บังคับกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของกรุงเทพมหานครขาดความเหมาะสมในหลายประการ นอกจากนี้ มาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางจริยธรรมที่ใช้บังคับกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของกรุงเทพมหานคร มีปัญหาบางประการทางข้อกฎหมาย ขอบเขตและความครอบคลุมในการบังคับใช้ และที่สำคัญ คือ “การขาดความเป็นเอกภาพ” ดังนั้น ผู้เขียนมีความเห็นว่า มาตรการทางกฎหมายสมควรให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 โดยบัญญัติถึงรูปแบบและลักษณะของการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ไว้ให้มีความครอบคลุมและชัดเจน นอกจากนี้ มาตรการทางจริยธรรมเห็นสมควรกำหนดให้มีการจัดทำประมวลจริยธรรมกลางสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของกรุงเทพมหานคร และมี “คณะกรรมการทางจริยธรรม” ในการควบคุมทางจริยธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป