Abstract:
ศึกษาการเกิดภาวะเครียดจากออกซิเดชั่น การอักเสบและการเกิดพังผืดในเนื้อเยื่อไตของผู้ป่วยโรคนิ่วไต และหาความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงานของไต รวบรวมกลุ่มผู้ป่วยโรคนิ่วไตจำนวน 28 ราย และกลุ่มควบคุมที่มีสุขภาพดี จำนวน 39 ราย เก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะครั้งแรกในตอนเช้า ปัสสาวะ 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ป่วยโรคนิ่วไตเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไตเพิ่มเติมเพื่อศึกษาพยาธิสภาพ เปรียบเทียบกับเนื้อเยื่อไตบริเวณที่ไม่เกิดมะเร็ง ซึ่งได้จากผู้ป่วยโรคมะเร็งไต การศึกษานี้ใช้ค่าครีเอทินีนในเลือด และอัตราการกรองที่ไตเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพการทำงานของไต และตัวบ่งชี้การทำลายเซลล์บุท่อไตเป็น Nacetyl glucosaminidase (NAG) activity และโปรตีนในปัสสาวะ ประเมินภาวะการอักเสบและการเกิดพังผืดในเนื้อไต โดยวิธี hematoxylin and eosin และ masson-trichrome staining ตามลำดับ ศึกษาการแสดงออก ของ 8-hydroxydeoxyguanosine (8-OHdG ) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวะเครียดจากออกซิเดชั่นและ TGF-β1 โดย วิธี immunohistochemistry วัดปริมาณ TGF-β1 ในปัสสาวะโดยวิธี ELISA และศึกษาผลของผลึก calcium oxalate monohydrate (COM) ต่อการสร้าง reactive oxygen species (ROS) ใน HK-2 cells
ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคนิ่วไตมีประสิทธิภาพการทำงานของไตต่ำกว่า และมีการบาดเจ็บของเซลล์บุท่อไตสูงกว่ากลุ่มควบคุมคนปกติ อย่างมีนัยสำคัญ เนื้อเยื่อไตของผู้ป่วยโรคนิ่วไตพบการอักเสบและการเกิดพังผืด และระดับการอักเสบมีความสัมพันธ์กับการเกิดพังผืด ผู้ป่วยที่มีการอักเสบและการเกิดพังผืดสูงสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงานของไตลดลง พบการแสดงออกของ 8-OHdG และ TGF-β1 สูงขึ้นในเนื้อเยื่อไตของผู้ป่วยโรคนิ่วไต ผลการศึกษาในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่า HK-2 cells ที่ได้รับผลึก COM มีปริมาณเซลล์มีชีวิตลดลงและมีการสร้าง ROS เพิ่มสูงขึ้น ระดับ TGF-β1 ในปัสสาวะของผู้ป่วยโรคนิ่วไตมีแนวโน้มสูงกว่าในกลุ่มคนปกติ แต่ยังไม่พบนัยสำคัญทางสถิติ สรุปในไตของผู้ป่วยโรคนิ่วไตพบภาวะเครียดจากออกซิเดชั่น การอักเสบและการเกิดพังผืดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงานของไตที่ลดลงและผลึก COM ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักที่พบมากในผู้ป่วยโรคนิ่วไต สามารถทำให้เกิดภาวะเครียดจากออกซิเดชั่นต่อเซลล์บุท่อไตได้