Abstract:
การศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดบาราคอลจากใบขี้เหล็กที่มีต่อตัวรับชนิดไอออนที่กระตุ่นให้เปิดด้วยลิแกนด์ ในเซลล์ประสาทของหนูขาว ได้ทำการศึกษาเฉพาะผลที่มีต่อตัวรับกาบาเอและตัวรับไกลซีน โดยได้ดำเนินการพัฒนาวิธีการแยกเซลล์ประสาทเดี่ยวจากสมองส่วนฮิปโปแคมปัสของหนูขาวพันธุ์วิสตาร์ เพศผู้ อายุ 21-27 วัน เซลล์ประสาทรูปปิรามิดที่แยกได้คงลักษณะทางกายสัณฐานวิทยาไว้ได้ดีพอควรและมีการตอบสนองต่อกาบาและไกลซีนได้ดีด้วยการวัดกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านเซลล์แบบทั้งเซลล์โดยเทคนิคแพทช์แคลมป์ การศึกษาผลของบาราคอลที่มีต่อตัวรับกาบาเอและตัวรับไกลซีน พบว่าบาราคอล (10-3000 ไมโครโมลาร์) ไม่มีผลกระตุ้นโดยตรงต่อเซลล์ประสาทรูปปิรามิดในการทำให้กระแสไหลผ่นเยื่อหุ้มเซลล์ สารบาราคอลความเข้มข้นต่ำ (1-30 ไมโครโมลาร์) จะไม่มีผลต่อกระแสไฟฟ้าที่กระตุ่นให้เกิดจากไกลซีน แต่สามารถเสริมฤทธิ์กระแสที่เกิดจากกาบา เมื่อเปรียบเทียบกับไดอะซิแพม พบว่าต้องใช้บาราคอลที่มีความเข้มข้นสูงกว่า (30 ไมโครโมลาร์) จึงให้การเสริมฤทธิ์สูงสุด (ร้อยละ 168.2 +-20.66) ใกล้เคียงกับการเสริมฤทธิ์โดยไดอะซิแพม (1 ไมโครโมลาร์) (ร้อยละ 184.8+-9.97) สำหรับเพนโตบาบิทาลโซเดียมมีผลเสริมฤทธิ์สูงสุดที่ความเข้มข้น 300 ไมโครโมลาร์ โดยร้อยละของการเสริมฤทธิ์สูงถึง 482.3+-32.54 ซึ่งมากกว่าผลจากบาราคอลและไดอะซิแพม ผลในการเสริมฤทธิ์กาบาของบาราคอลนี้ไม่สามารถยับยั้งด้วยสารฟลูมาเซนิลซึ่งเป็นสารต้านที่บริเวณยึดเหนี่ยวเบนโซไดอะซิพีนบนตัวรับกาบาเอ แสดงให้เห็นว่าการเสริมฤทธิ์กาบาของบาราคอลที่ตัวรับกาบาเอ ไม่ผ่านบริเวณยึดเหนี่ยวเบนโซไดอะซิพีน ในขณะที่สารบาราคอลความเข้มข้นสูง 1000-3000 ไมโครโมลาร์ จะยับยั้งกระแสที่เกิดจากกาบาและขนาด 100-1000 ไมโครโมลาร์ จะยับยั้งกระแสที่เกิดจากไกลซีน ซึ่งลักษณะการยับยั้งกระแสที่เกิดจากกาลาและไกลซีนของบาราคอลความเข้มข้นสูง มีลักษณะคล้ายคลึงกับสารต้านชนิดแข่งขันของตัวรับกาบาเอและไกลซีน คือ ไบคุคูลินและสตริกนินตามลำดับ สำหรับกลไกการออกฤทธิ์ของบาคาคอลในการเสริมฤทธิ์กาบาที่ตัวรับกาบาเอในความเข้มข้นต่ำและการยับยั้งและไกลซีนในความเข้มข้นสูง ยังคงต้องการการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป