Abstract:
ปัจจุบันจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และความต้องการอาคารที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน ทำให้เกิดการออกแบบอาคารรูปทรงต่างๆ ขึ้น อาคารรูปทรงกลมเป็นอาคารที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานมาก เนื่องจากอาคารรูปทรงกลมนั้นมีอัตราส่วนต่อพื้นที่ใช้สอยต่ำ ทำให้สามารถประหยัดพลังงานภายในอาคาร รวมถึงประหยัดค่าก่อสร้างเปลือกอาคารลงไปด้วย แต่อาคารรูปทรงกลมนั้นจะมาพร้อมกับปัญหาเกี่ยวกับสภาพเสียงภายในอาคารด้วยเช่นกัน ปัญหาด้านคุณภาพเสียงที่พบในอาคารทรงกลมคือ ปัญหาสภาพเสียงก้อง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาในการใช้งานและการสื่อสารระหว่างผู้คนภายในอาคาร ทำให้ไม่สามารถใช้อาคารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดคุณภาพเสียงที่ดีภายในอาคารทรงกลม รวมถึงศึกษาพฤติกรรมของเสียงที่เกิดขึ้นจริงภายในอาคารทรงกลม เพื่อวิเคราะห์ประมวลผล และเสนอแนวทางการออกแบบอาคารทรงกลม เพื่อให้มีคุณภาพเสียงที่ดี ผลการวิจัยพบว่า การคำนวณค่าจากสูตร Reverberation times = 0.161(V/Sa) นั้นสามารถใช้กับอาคารทรงเหลี่ยมทั่วไปได้ แต่จะไม่สามารถใช้กับอาคารทรงกลมได้ ค่าที่ได้จากสูตรนั้นจะมีความแตกต่างจากค่าที่ได้จากการวัดจริงภายในอาคารทรงกลม จากอาคารตัวอย่างขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 เมตร ค่า Reverberation times ที่ได้จากการคำนวณนั้นอยู่ที่ 3.6 วินาที แต่ค่า Reverberation times ที่ได้จากการวัดจริงมีค่าอยู่ในช่วง 3.2-6.8 วินาที ขึ้นกับตำแหน่งที่ทำการวัดค่า หลังจากปรับปรุงผิวผนังภายในอาคารแล้ว ค่า Reverberation times เท่ากับ 1.2 วินาที ซึ่งเหมาะสมสำหรับการใช้งานสำหรับเป็นห้องเรียนและสัมนา ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดคุณภาพเสียงที่ดีภายในอาคารทรงกลมนั้น ได้แก่ ปริมาตร รูปทรงภายในของอาคาร วัสดุพื้นผิวภายในของอาคาร ตำแหน่งของแหล่งกำเนิดเสียงและความดังของเสียง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าในอาคารทรงกลมจะมีปัญหามากน้อยเพียงใด