Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายในการแต่งแร่ทรายแก้วคุณภาพต่ำ เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมแก้ว โดยขั้นต้นทำการแยกสารอินทรีย์จำพวกรากไม้, เศษหญ้า ออกไปก่อน ด้วยตะแกรงสั่นแบบเปียก และแยกแร่ซึ่งมี ถ.พ. หนักด้วยเครื่องฮัมฟรีสไปรอล แล้วจึงนำทรายแก้วที่ได้เบื้องต้นมาแต่งแร่ต่อในขั้นที่สองโดยทำการแต่งแร่เปรียบเทียบ 3 วิธีดังนี้ โต๊ะสั่นแยกแร่, เครื่องแยกแร่แม่เหล็กความเข้มสูงแบบเปียกชนิดถังคารูเซล และเครื่องแยกแร่แม่เหล็กสายพานขวางแบบแห้งผลการวิจัยพบว่า ทรายแก้วที่ใช้ในการวิจัย ซึ่งเป็นทรายแด้วเกรดต่ำ (95.5% SiO[subscript 2], 0.94% Al[subscript 2]O[subscript 3], 0.13% TiO[subscript 2], 0.0013% Cr[subscript 2]O[subscript 3], 3.07%LOI) ประกอบด้วยแร่ควอร์ตซ์ร้อยละ 95 มลทินซึ่งเป็นสารอินทรีย์จำพวกรากไม้, เศษหญ้า ร้อยละ 3 และแร่ติดแม่เหล็ก (เช่น อิลเมไนต์) รวมกับแร่ ถ.พ. หนักอื่นๆ ร้อยละ 2 ส่วนเม็ดทรายมีขนาดอยู่ในช่วง60-200 เมช กรรมวิธีที่เหมาะสมสำหรับการแต่งแร่หลังจากผ่านเครื่องฮัมฟรีสไปรอล คือ การแยกด้วยเครื่องแยกแม่เหล็กความเข้มสูงแบบเปียกชนิดถังคารูเซล โดยใช้สภาวะในการแต่งดังนี้ ป้อนแร่ผสมน้ำซึ่งมีสัดส่วนของแข็ง 6.67% ด้วยอัตราเร็ว 10 ลิตร/นาที ณ อัตราเร็วของถังคารูเซล 1.98 เมตร/นาที ณ สภาวะดังกล่าวสามารถเก็บแร่ได้ 93.36% yielf และได้หัวแร่ควอร์ต ที่มีคุณภาพสูง (99.40% SiO[subscript 2], 0.344% Al[subscript 2]O[subscript 3], 0.04% Fe[subscript 2]O[subscript 3], 0.038% TiO[subscript 2], 0.003% Cr[subscript 2]O[subscript 3], 0.23% LOI) ซึ่งสามารถนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมแก้วได้ สำหรับการแยกแร่ที่ผ่านฮัมฟรีย์สไปรอลแล้วด้วยโต๊ะสั่น และเครื่องแยกแร่แม่เหล็กแบบสายพานขวาง ทรายแก้วที่ได้มีคุณภาพ (%Grade) SiO[subscript 2] มากกว่าร้อยละ 99 แต่ Fe[subscript 2]O[subscript 3] มากกว่าร้อยละ 0.05 จึงยังไม่เหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมแก้ว