dc.contributor.author |
เกื้อ วงศ์บุญสิน |
|
dc.contributor.author |
อัจฉรา เอ๊นซ์ |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สถาบันประชากรศาสตร์ |
|
dc.coverage.spatial |
ไทย |
|
dc.date.accessioned |
2006-06-02T11:10:49Z |
|
dc.date.available |
2006-06-02T11:10:49Z |
|
dc.date.issued |
2539 |
|
dc.identifier.isbn |
9746351702 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/240 |
|
dc.description.abstract |
การศึกษาเรื่องผู้ดูแลบุตรวัย 3-5 ปี ของสตรีไทยในเขตเมืองและเขตชนบทนอกจากจะมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงรูปแบบของผู้ดูแลบุตรวัย 3-5 ปี แล้วยังมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของตัวแปรทางเศรษฐกิจ สังคม และประชากรที่มีต่อแบบแผนการดูแลบุตรวัยดังกล่าว ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์เป็นข้อมูลทุติยภูมิจากโครงการสำรวจสถิติสังคมเกียวกับเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2535 ซึ่งดำเนินการโดยกองสถิติสังคม สำนักงานสถิติแห่งชาติ ในเดือนพฤษภาคม 2535 กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือบุตรอายุ 3-5 ปี ในปีการศึกษา 2534 ที่มีบิดามารดาอาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกันและบิดามารดาเป็นหัวหน้าครัวเรือนหรือคู่สมรสของหัวหน้าครัวเรือน และมีสถานภาพสมรสกำลังสมรส จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 2,701 ราย ปัจจัยทางประชากร สังคมและเศรษฐกิจที่ใช้ในการศึกษา เพื่อหาความสัมพันธ์กับแบบแผนการดูแลบุตรนั้นได้แก่ ภาคที่อยู่อาศัย จำนวนสมาชิกในครัวเรือน อายุของบิดามารดา การศึกษาของบิดาและมารดา อาชีพของบิดาและมารดา สถานภาพการทำงานของบิดารและมารดา ทั้งนี้ได้ใช้การวิเคราะห์แบบตารางไขว้และตรวจสอบความสัมพันธ์ด้วยสถิติไคสแควร์ ผลการศึกษาปรากฏว่า ทั้งในเขตเมืองและชนบท บุตรอายุ 3-5 ปี มีบิดามารดาเป็นผู้ดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งมากกว่า 3 ใน 4 ในเขตชนบท ขณะที่เขตเมือง ประมาณครึ่งหนึ่งของบุตรมีบิดามารดาเป็นผู้ดูแลและประมาณร้อยละ 40 ของบุตรกำลังเรียนโดยส่วนใหญ่เรียนอยู่ในระดับอนุบาลหรือเด็กเล็ก ซึ่งพบอีกด้วยว่าในเขตเมืองประมาณ 3 ใน 4 ของบุตรที่กำลังเรียนนั้น เรียนในโรงเรียนเอกชน แต่เขตชนบทประมาณร้อยละ 60 เรียนในโรงเรียนรัฐบาล ตัวแปรต่าง ๆ ที่ศึกษามีความสัมพันธ์กับผู้ดูแลบุตรอายุ 3-5 ปี ทั้งในเขตเมืองและเขตชนบทอย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนสมาชิกในครัวเรือนกับผู้ดุแลบุตรในเขตเมือง นอกจากนี้เมื่อนำอายุบุตรมาร่วมพิจารณาด้วย พบว่าโดยส่วนใหญ่ยังคงความสัมพันธ์ในลักษณะเดิม แต่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของปัจจัยอื่นที่มีผลต่อบุคคลที่จะทำหน้าที่ดูแลบุตรอายุ 3-5 ปีว่าจะเป็นบุคคลใด ข้อค้นพบจากการศึกษานี้ชี้ให้เห็นความจำเป็นของการเตรียมสถานบริการดูแลเด็กอายุ 3-5 ปี เช่น ในรูปของโรงเรียนอนุบาย โดยต้องมีการดูแลควบคุมให้กระจายอย่างทั่งถึงทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่บิดามารดาจะต้องรับผิดชอบ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพของเด็ก และเป็นการส่งเสริมให้บิดามารดาสามารถประกอบอาชีพได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้การวิจัยในเรื่องนี้ควรมีการดำเนินการต่อไปโดยเพิ่มปัจจัยอื่น ๆ เข้าร่วมในการศึกษา |
en |
dc.format.extent |
15293816 bytes |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.language.iso |
th |
en |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.subject |
เด็ก--การดูแล--ไทย |
en |
dc.subject |
สตรี--ไทย |
en |
dc.subject |
ผู้ดูแลเด็ก--ไทย |
en |
dc.title |
ผู้ดูแลบุตรวัย 3-5 ปี ของสตรีในเขตเมืองและเขตชนบทของประเทศไทย |
en |
dc.title.alternative |
Child care among children aged 3-5 in urban and rural of Thailand |
en |
dc.type |
Technical Report |
en |
dc.email.author |
kua.w@chula.ac.th |
|
dc.email.author |
Achara.E@chula.ac.th |
|