Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงผลกระทบของประเทศไทยซึ่งได้รับจากการภาคยานุวัติเข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาปี 1954 เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินวัฒนธรรมในกรณีการขัดกันด้วยอาวุธและพิธีสารฉบับที่ 1 ซึ่งมีสาระสำคัญในการให้ความคุ้มครองทรัพย์สินวัฒนธรรมจากความเสียหายและผลร้ายจากกรณีการขัดกันด้วยอาวุธ รวมถึงยังให้ความคุ้มครองต่อการขนส่งและพนักงานซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังศึกษาถึงการคุ้มครองทรัพย์สินวัฒนธรรมในกรณีการขัดกันด้วยอาวุธตามพิธีสารฉบับที่ 2 ปี 1999 ซึ่งมีสาระสำคัญในการขยายเพิ่มเติมความคุ้มครองตามอนุสัญญาและพิธีสารฉบับที่ 1 และมาตรการซึ่งได้บัญญัติเพิ่มขึ้นถึงผลกระทบต่อประเทศไทยหากเข้าเป็นภาคีของพิธีสารฉบับที่ 2 จากผลของการศึกษาพบว่า อนุสัญญาปี 1954 เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินวัฒนธรรมในกรณีการขัดกันด้วยอาวุธและพิธีสารฉบับที่ 1 ได้กำหนดให้ประเทศไทยมีพันธกรณีในการปฏิบัติตามอนุสัญญาแต่เนื่องจากกฎหมายภายในของไทยไม่สอดคล้องต่อพันธกรณีดังกล่าวทำให้ประเทศไทยไม่สามารถปฏิบัติตามอนุสัญญาและพิธีสารฉบับที่ 1 ได้อย่างเต็มที่ ประเทศไทยจึงต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เอื้อต่อการปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าว ในส่วนของพิธีสารฉบับที่ 2 หากประเทศไทยเข้าเป็นภาคีของพิธีสารฉบับนี้ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ต่อการคุ้มครองทรัพย์สินวัฒนธรรมในกรณีขัดกันด้วยอาวุธเพิ่มมากขึ้น การเป็นภาคีของอนุสัญญาและพิธีสารฉบับที่ 1 ก่อให้เกิดการคุ้มครองทรัพย์สินวัฒนธรรมซึ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น.