Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ เจตคติต่องาน บรรยากาศเชิงสร้างสรรค์และพฤติกรรมเชิงสร้างสรรค์ของพยาบาลวิชาชีพ ศึกษาความสัมพันธ์และตัวแปรทำนายพฤติกรรมสร้างสรรค์ของพยาบาลวิชาชีพ งานผู้ป่วยใน โรงพยาบาลชุมชน กลุ่มตัวอย่างคือ พยาบาลวิชาชีพ งานผู้ป่วยใน โรงพยาบาลชุมชน จำนวน 388 คน สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ เจตคติต่องาน บรรยากาศเชิงสร้างสรรค์และพฤติกรรมสร้างสรรค์ แบบสอบถามทุกชุดผ่านการตรวจสอบความตรงและความเที่ยงแล้ว ค่าความเที่ยงของแบบสอบถามทั้ง 4 ฉบับ คือ .79, .87, .95 และ .96 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้นตอน ผลการวิจัย พบว่า 1. เจตคติต่องาน แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และบรรยากาศเชิงสร้างสรรค์อยู่ในระดับสูง ([x-bar] = 4.28, 4.08, 3.64 ตามลำดับ) ส่วนพฤติกรรมสร้างสรรค์ของพยาบาลวิชาชีพ งานผู้ป่วยใน โรงพยาบาลชุมชน อยู่ในระดับปานกลาง ([x-bar] = 3.38) 2. แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ บรรยากาศเชิงสร้างสรรค์และเจตคติต่องาน มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลางกับพฤติกรรมสร้างสรรค์ของพยาบาลวิชาชีพ งานผู้ป่วยใน โรงพยาบาลชุมชน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .528, .501 และ .447 ตามลำดับ) 3. ตัวแปรร่วมพยากรณ์พฤติกรรมสร้างสรรค์ของพยาบาลวิชาชีพได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และบรรยากาศเชิงสร้างสรรค์ ร่วมกันพยากรณ์ได้ร้อยละ 38.1 (R² = .381) มีสมการณ์พยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน ดังนี้ Z[subscript พฤติกรรมสร้างสรรค์] = .392 Z[subscript แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์] + .348 Z[subscript บรรยากาศเชิงสร้างสรรค์] จากผลการวิจัยแสดงว่า พยาบาลวิชาชีพที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง มีเจตคติที่ดีต่องานพยาบาลและปฏิบัติงานอยู่ในองค์การที่มีบรรยากาศเชิงสร้างสรรค์ดี จะมีระดับของพฤติกรรมสร้างสรรค์อยู่ในระดับสูง