Abstract:
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของระดับพลาสมาไนทริกออกไซด์ในผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดที่มีการไหลเวียนโลหิตไปปอดเพิ่มขึ้นกับความดันโลหิตที่ปอด วิธีการดำเนินการวิจัย: ศึกษาในผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะหัวใจพิการแต่กำเนิดจำนวน 32 ราย อายุตั้งแต่ 3 เดือนถึง 12 ปี โดยจำแนกตามลักษณะการไหลเวียนโลหิตที่ปอดเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 มีการไหลเวียนโลหิตไปปอดเพิ่มขึ้นจาก left-to-right shunt จำนวน 21 คน กลุ่มที่ 2 มีการไหลเวียนโลหิตไปปอดเพิ่มขึ้นจาก right-to-left shunt จำนวน 7 คน และกลุ่มที่ 3 มีการไหลเวียนโลหิตไปปอดลดลงจำนวน 4 คน ทำการเก็บตัวอย่างเลือด ณ ตำแหน่งต่างๆ จากการสวนหัวใจและทำการวิเคราะห์หาระดับพลาสมาไนเตรทและไนไตรทโดยอาศัย Giess reaction เพื่อหาความสัมพันธ์กับความดันโลหิตที่ปอด ผลการวิจัย: ผู้ป่วยเด็กที่มีการไหลเวียนโลหิตไปปอดเพิ่มขึ้น (กลุ่มที่ 1 และ 2) มีระดับพลาสมาไนทริกออกไซด์สูงกว่าผู้ป่วยเด็กที่มีการไหลเวียนโลหิตไปปอดลดลง (กลุ่มที่ 1;58.11 micromol/L, กลุ่มที่ 2;52.53 micromol/L, กลุ่มที่ 3;39.96 micromol/L) อย่างมีนัยสำคัญ (p = 0.027) และมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิตที่ปอด (R = 0.668, p = 0.005) อย่างไรก็ตามในการศึกษานี้พบว่าระดับพลาสมาไนทริกออกไซด์ลดลงในผู้ป่วย 3 รายที่มีความดันโลหิตที่ปอดสูง มากที่มีสัดส่วนของความต้านทานในปอด (Rp/Rs) > 0.5 สรุปผลการวิจัย: ไนทริกออกไซด์มีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิตที่ปอดในผู้ป่วยที่มีการไหลเวียนโลหิตไปปอดเพิ่มขึ้น