Abstract:
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะสัดส่วนของร่างกายต่อความสามารถในการพายเรือในชายไทยซึ่งไม่ได้เป็นนักกีฬาพายเรือ กลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการศึกษาวิจัยเป็นนักเรียนพลทหาร ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กองทัพเรือ จำนวน 220 คน อายุเฉลี่ย 21 ปี ทำการวัดสัดส่วนของร่างกาย 20 ตำแหน่ง และทดสอบความสามารถในการพายเรือ 500 เมตร และ 2,000 เมตร ด้วยเครื่องกรรเชียงบกกล ก่อนและหลังการฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกพายเรือทั้งบนบกโดยใช้เครื่องกรรเชียงบกกลและพายเรือกรรเชียงจริงบนน่านน้ำระยะทาง 2,000 เมตร เป็นเวลา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน ภายหลังเสร็จสิ้นโปรแกรมการฝึก เหลืออาสาสมัคร 206 คน ผลการศึกษาพบว่าภายหลังเสร็จสิ้นโปรแกรมการฝึกพายเรือ 4 สัปดาห์ สัดส่วนของร่างกาย 11 ตำแหน่งมีค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P<0.001 ไม่มีนัยสำคัญ 1 ตำแหน่ง และมี 5 ตำแหน่งที่สัดส่วนของร่างกายมีค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P<0.05 และไม่มีนัยสำคัญจำนวน 3 ตำแหน่ง เวลาที่ใช้ในการทดสอบพายเรือทั้งระยะ 500 เมตร และ 2,000 เมตร ลดลง 7.8 วินาที โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P<0.001 ทั้ง 2 ระยะ จากการวิเคราะห์ด้วย Step-wise multiple regression พบว่าเส้นรอบวงกล้ามเนื้อแขนท่อนบนขณะข้อศอกงอ 90 องศา ช่วงความกว้างกระดูกหัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง และความหนาไขมันใต้ผิวหนังขาท่อนล่างด้านชิดใน กับ เส้นรอบวงแขนท่อนล่าง และผิวหนังไขมันใต้ผิวหนังแขนท่อนบนด้านหน้า ขณะแรกเข้าโปรแกรมการฝึกพายเรือ เป็นตัวพยากรณ์ที่สามารถนำมาอธิบายถึงความสัมพันธ์กับเวลาที่ใช้ในการทดสอบภายเรือหลังเสร็จสิ้นโปรแกรมการฝึกพายเรือทั้ง ในระยะ 500 เมตร และ 2,000 เมตร ได้ 12 % กับ 11 % ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.001 ทั้ง 2 ระยะ ตามลำดับ สรุป ลักษณะสัดส่วนของร่างกายก่อนเข้ารับโปรแกรมการฝึกพายเรือ มีความสำคัญในการทำนายถึงความสามารถในการพายเรือในชายไทยซึ่งไม่ได้เป็นนักกีฬาเรือพาย ภายหลังได้รับการฝึกในโปรแกรมการฝึกพายเรือ 4 สัปดาห์