Abstract:
โพลีไซคลิคอะโรมาติคไฮโดรคาร์บอน (พีเอเอช) เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้น จากกระบวนการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิง เมื่อสารพีเอเอชเข้าสู่ร่างกาย จะถูกเปลี่ยนแปลง ได้เมแทบอไลท์ที่มีฤทธิ์ก่อมะเร็ง โดยเมื่อจับกับ DNA มีผลก่อการกลายพันธุ์และก่อให้เกิดมะเร็งได้ การตรวจวัดการได้รับสารพีเอเอชในร่างกายมนุษย์จึงน่าจะมีประโยชน์ในการบ่งบอกถึงกลุ่ม คนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการตรวจวัดระดับ 1-ไฮดรอกซีไพรีน ซึ่งเป็นเมแทบอไลต์ของสารพีเอเอช โดยตรวจวัดในปัสสาวะของกลุ่มคนที่มีโอกาลสูง ต่อการสัมผัสกับสารพีเอเอชที่มีแหล่งกำเนิดจากควันท่อไอเสียรถยนต์ เปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่มีโอกาสสัมผัสกับควันท่อไอเสียรถยนต์น้อยกว่า โดยเก็บปัสสาวะหลังจากอาสาสมัครเสร็จสิ้นการทำงานที่ต้องสัมผัสกับควันท่อไอเสียรถยนต์ทำการวิเคราะห์หาความเข้มข้นของ 1-ไฮดรอกซีไพรีน ในปัสสาวะโดยวิธี HPLC และวัดระดับครีเอตินีนในปัสสาวะโดยวิธีสเปกโทรโฟโตเมทรี พบว่า ระดับของ 1-ไฮดรอกซีไพรีน ในปัสสาวะของกลุ่มคนที่ได้รับควันจากท่อไอเสียรถยนต์ มีค่าสูงกว่า กลุ่มคนที่มีโอกาสสัมผัสกับควันท่อไอเสียรถยนต์น้อยกว่า โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.0035 ± 0.0032 และ 0.0011 ± 0.0010 ไมโครโมล/ลิตร ตามลำดับ (P = 0.000) และระดับของครีเอตินีนในปัสสาวะของกลุ่มคนที่ได้รับควันจากท่อไอเสียรถยนต์ มีค่าสูงกว่ากลุ่มมีโอกาสสัมผัสกับควันท่อไอเสียรถยนต์น้อยกว่า โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.01 ± 0.005 และ 0.008 ± 0.006 โมล/ลิตร ตามลำดับ (P = 0.040) และเมื่อคำนวณในรูปของ 1-ไฮดรอกซีไพรีน/โมลครีเอตินีน พบว่า ปัสสาวะของกลุ่มคนที่ได้รับควันจากท่อไอเสียรถยนต์ มีค่าสูงกว่ากลุ่มคนที่มีโอกาสสัมผัสกับควันท่อไอเสียรถยนต์ น้อยกว่า โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.37 ± 0.28 และ 0.19 ± 0.22 ตามลำดับ (P = 0.002) การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนที่ได้รับควันจากท่อไอเสียรถยนต์ได้รับสารประกอบพีเอเอชในปริมาณสูง และระดับของ 1-ไฮดรอกซีไพรีน/โมลครีเอตินีน สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดการได้รับสารพีเอเอชที่มีแหล่งกำเนิดจากควันท่อไอเสียรถยนต์ได้จริง อีกทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกลุ่มคนที่ได้รับ สารพีเอเอชจากแหล่งอื่นๆ ต่อไป