Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) คำนวณอัตราผลตอบแทนจากการรับรู้ในการลงทุนทางการศึกษาสายอาชีวะและสายสามัญ และ (2) ศึกษาปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจศึกษาต่อของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2554 ในจังหวัดเชียงราย การศึกษาอัตราผลตอบแทนจากการรับรู้ในลงทุนทางการศึกษาใช้การคำนวณโดย Elaborate method และ Short-cut method สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจศึกษาต่อ ใช้แบบจำลองหลายทางเลือก (Multinomial logit model) โดยตัวแปรที่สนใจศึกษา ได้แก่ เพศ ผลการศึกษาเฉลี่ย ประเภทของโรงเรียน ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง จำนวนพี่น้อง อิทธิพลของผู้ปกครองในการตัดสินเลือกประเภทการศึกษา และภาพลักษณ์ความรุนแรงในกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษา และสัดส่วนของอัตราผลตอบแทนจากการรับรู้ในการลงทุนทางการศึกษาสายอาชีวะต่อสายสามัญ ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาได้มาจากการตอบแบบสอบถามของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในภาคการเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ในจังหวัดเชียงราย มีจำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 561 คน
ผลการศึกษาพบว่าอัตราผลตอบแทนจากการรับรู้ในการลงทุนทางการศึกษาสายอาชีวะและสายสามัญที่คำนวณโดย Elaborate method มีค่าเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 13.14 และ 12.23 ตามลำดับ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนจากการรับรู้ที่คำนวณโดย Short-cut method มีค่าเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 9.22 และ 8.75 ตามลำดับ จากการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจศึกษาต่อ พบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจศึกษาต่อ ได้แก่ ผลการศึกษาเฉลี่ย ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง อิทธิพลจากผู้ปกครอง และภาพลักษณ์การใช้ความรุนแรงในกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษา แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบระหว่างการตัดสินใจศึกษาต่อสายอาชีวะและสายสามัญ พบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ได้แก่ ผลการศึกษาเฉลี่ย ประเภทโรงเรียน ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง และสัดส่วนของอัตราผลตอบแทนจากการรับรู้ในการลงทุนทางการศึกษาสายอาชีวะต่อสายสามัญ ที่คำนวณโดย Elaborate method