Abstract:
ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย มีลักษณะของการประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวกับการบริการและให้คำปรึกษาแนะนำทางกฎหมาย รวมถึงดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการบริการทางการเงินให้แก่ลูกความ ซึ่งในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการจัดการลงทุนและบริการสินทรัพย์อาจใช้วงเงินหรือทุนทรัพย์จำนวนน้อยไปจนถึงมาก ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้อย่างสูง ที่อาชญากรหรือกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่มีเงินจำนวนมากต้องการฟอกเงินโดยการประกอบกิจกรรมเกี่ยวกับการลงทุนและใช้บริการจากผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย ดังนั้น ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายจึงมีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินได้เช่นกัน ทำให้เกิดความจำเป็นในการตรวจสอบและหามาตรการป้องกันมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายเป็นเครื่องมือในการฟอกเงินของผู้ก่อการร้าย แต่ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายในการรายงานการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย ทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายไม่อยู่ในบังคับแห่งกฎหมายที่ต้องรายงานธุรกรรม ในขณะที่มาตรการสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย(Anti-Money Laundering and Combating the Financing of Terrorism – AML/CFT) ของ Financial Action Task Force หรือ หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจด้านการเงิน ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับเป็นการทั่วไป ได้กำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายมีหน้าที่ต้องรายงานการทำธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องศึกษาถึงมาตรฐานสากลระหว่างประเทศดังกล่าว เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายฟอกเงินของประเทศไทยในการกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายมีหน้าที่ต้องรายงานการทำธุรกรรมตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยมีมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล