Abstract:
วัตถุประสงค์: ศึกษาการยึดอยู่ของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันชนิดเรซิน ร่วมกับการใช้สารยึดติดเปรียบเทียบกับวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันชนิดกลาสไอโอโนเมอร์ ในฟันกรามถาวรซี่ที่สองที่ขึ้นสู่ช่องปากเพียงบางส่วน วัสดุและวิธีการ: กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้คือ ฟันกรามล่างถาวรซี่ที่สองที่ขึ้นสู่ช่องปากเพียงบางส่วน จำนวน 157 ซี่ ของเด็กอายุ 11-14 ปี จำนวน 117 คน ซึ่งได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันด้วยวัสดุชนิดเรซิน (คลินโปร ซีแลนท์) ร่วมกับสารยึดติด (แอดเปอร์ ซิงเกิล บอนด์ พลัส แอดฮีซีฟ) หรือวัสดุชนิดกลาสไอโอโนเมอร์ (ฟูจิ เซเวน) อย่างสุ่ม ตรวจวัดการยึดอยู่ของวัสดุภายหลังการเคลือบหลุมร่องฟันที่ระยะเวลา 3 เดือน และ 6 เดือน วิเคราะห์เปรียบเทียบการยึดอยู่ของวัสดุด้วยสถิติไคสแควร์ ที่ระดับนัยสำคัญ p<0.05 ผลการศึกษา: อัตราการยึดอยู่อย่างสมบูรณ์ของวัสดุชนิดเรซินร่วมกับสารยึดติด และวัสดุชนิดกลาสไอโอโนเมอร์ คิดเป็น 100% และ 97.4% ตามลำดับที่ระยะเวลา 3 เดือน และคิดเป็น 97.1% และ 93.1% ตามลำดับที่ระยะเวลา 6 เดือน ฟันที่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันด้วยวัสดุชนิดเรซินร่วมกับสารยึดติด และวัสดุชนิดกลาสไอโอโนเมอร์มีอัตราการยึดอยู่ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในการตรวจทั้งสองครั้ง และไม่พบฟันผุบนด้านบดเคี้ยวของฟันทุกซี่ตลอดระยะเวลา 6 เดือน สรุป: การเคลือบหลุมร่องฟันด้วยวัสดุชนิดเรซินร่วมกับสารยึดติดและวัสดุชนิดกลาสไอโอโนเมอร์ ในฟันกรามถาวรที่เพิ่งขึ้นสู่ช่องปากเพียงบางส่วน ให้ผลการยึดอยู่ไม่แตกต่างกัน และไม่พบการเกิดฟันผุบริเวณด้านบดเคี้ยวในระยะเวลา 6 เดือน ภายหลังการเคลือบหลุมร่องฟัน