Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์อายุ เพศสถานะ ชนชั้นและชาติพันธุ์ในนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนชุดนักสืบหญิงหมายเลขหนึ่ง (The No. 1 Ladies' Detective Agency) ของอเลกซานเดอร์ แมคคอล สมิธ (Alexander McCall Smith) ชุดคุณป้ามาธูร ของ “แก้วเก้า” และชุดสโมสรนักสืบ ของ “นายา” ซึ่งมีตัวละครเอกเป็นนักสืบหญิงสูงวัย และเพื่อเปรียบเทียบนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนของไทยกับของตะวันตก
ผลการศึกษาด้านอายุพบว่า การที่ตัวละครสูงวัยสวมอัตลักษณ์เป็นคนหนุ่มสาว เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทการเป็นนักสืบ ตามขนบของนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวน ที่ตัวละครเอกมีลักษณะเฉพาะ คือ เป็นชายหนุ่มชนชั้นกลางหรือชนชั้นสูงผู้มีความรู้ ความสามารถทางกฎหมาย ฉลาดหลักแหลม มองการณ์ไกล มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์และมีความสามารถด้านการใช้เหตุผล จึงเป็นการโต้กลับวาทกรรมของสังคมเกี่ยวกับผู้สูงวัย แต่การปรุงแต่งและนำเสนอตัวตนของคนชราขัดแย้งกับมายาคติของสังคมกระแสหลัก และยังมีลักษณะที่เน้นย้ำมายาคติดังกล่าว ทำให้เกิดความย้อนแย้งขึ้นกับตัวตนของผู้สูงวัย
ผลการศึกษาด้านเพศสถานะพบว่า การที่ตัวละครสตรีสวมอัตลักษณ์เป็นชายเพื่อทำงานในพื้นที่สาธารณะ เป็นการโต้กลับมายาคติของสังคมเกี่ยวกับสตรี แสดงให้เห็นประสบการณ์ ความรู้ความคิด รวมทั้งสัญชาตญาณโดยธรรมชาติของสตรีว่าเท่าเทียม และหรือเก่งกาจสามารถกว่าบุรุษ แต่การที่ตัวละครนักสืบต้องอาศัยเรื่องเล่าเพื่อต่อรองกับอำนาจของบุรุษ และตัวละครสตรีอื่นแสดงถึงความอ่อนแอ จำเป็นต้องถูกปกป้อง และต้องพึ่งพาบุรุษ ก็แสดงให้เห็นความย้อนแย้งที่เกิดขึ้นกับตัวตนของสตรี
ผลการศึกษาด้านชนชั้นพบว่า ความสัมพันธ์ทางชนชั้นที่ถูกสะท้อนออกมาจากนวนิยาย แสดงให้เห็นความโหยหาระบบสังคมเดิมที่มีความเท่าเทียม หรือมีการอุปถัมภ์กันอย่างเหมาะสม แสดงถึงความเลวร้ายของระบบทุนนิยม แต่ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงการไม่ยอมรับความเท่าเทียมทางชนชั้น ทำให้เกิดความย้อนแย้งจากการติดอยู่ในมายาคติแบ่งแยกระหว่าง “เรา” และ “ไม่ใช่เรา”
ผลการศึกษาด้านชาติพันธุ์พบว่า ตัวละครชาวไทยแสดงถึงการรับรู้และยอมรับมายาคติว่าชาติพันธุ์ไทยด้อยกว่าชาติตะวันตก แต่การสร้างและนำเสนอตัวละครเอกนักสืบผิวสีและนำเสนอเรื่องเล่าเกี่ยวกับพื้นที่ วิถีชีวิตและความทรงจำของคนผิวสีโดยเน้นการให้คุณค่าความดีงามทางด้านจิตใจ เป็นกลวิธีการโต้กลับวาทกรรมความเฉลียวฉลาด มีศีลธรรมของคนผิวขาวที่มีเหนือคนผิวสี และช่วยให้คนผิวสีดำรงอัตลักษณ์ของตนไม่ให้ถูกกลืนหายไปในระบบโลกาภิวัตน์