Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงการยกเลิกข้อบทเรื่องบริการส่วนบุคคลที่เป็นอิสระโดยให้เก็บภาษีจากข้อบทเรื่องกำไรธุรกิจแทน ตามอนุสัญญาต้นแบบขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา เพื่อวิเคราะห์เป็นแนวทางการปรับใช้สำหรับประเทศไทย ข้อบทเรื่องบริการส่วนบุคคลที่เป็นอิสระเป็นการเก็บภาษีจากการให้บริการที่เป็นการใช้กำลังกายกำลังสมอง สติปัญญา ความเชี่ยวชาญพิเศษในการรับจ้างทำงานเป็นหลัก ซึ่งก่อนการยกเลิกข้อบทในปี ค.ศ.2000 นั้นอนุสัญญาต้นแบบขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา กำหนดให้เก็บภาษีโดยเก็บจากเงินได้ที่ได้รับสืบเนื่องจากฐานะประกอบการประจำเพียงประการเดียว
แต่สำหรับอนุสัญญาต้นแบบขององค์การสหประชาชาติได้กำหนดเงื่อนไขการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากเดิม ได้แก่ เงื่อนไขในการที่ผู้มีเงินได้อยู่ในประเทศแหล่งเงินได้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือเงื่อนไขให้จัดเก็บภาษีในประเทศแหล่งเงินได้หากเงินได้ที่ผู้ให้บริการได้รับตกเป็นภาระของสถานประกอบการถาวรในประเทศแหล่งเงินได้ สำหรับอนุสัญญาเพื่อเว้นการเก็บภาษีซ้อนที่ประเทศไทยใช้ในการเจรจากับประเทศต่างๆนิยมใช้ตามอนุสัญญาต้นแบบขององค์การสหประชาชาติซึ่งเอื้อให้ประเทศไทยในฐานะประเทศแหล่งเงินได้ที่มีการนำเข้าบริการส่วนบุคคลได้รับประโยชน์จากการเก็บภาษีจากเงินได้ของผู้ให้บริการส่วนบุคคล หากประเทศไทยยกเลิกข้อบทเรื่องบริการส่วนบุคคลที่เป็นอิสระและใช้บังคับเก็บภาษีตามข้อบทเรื่องกำไรธุรกิจแทน แม้จะไม่กระทบต่อหลักการแนวคิดในการจัดเก็บภาษีจากการประกอบวิชาชีพอิสระและกำไรธุรกิจ แต่อาจส่งผลให้ไม่สามารถเก็บภาษีจากการที่ผู้ให้บริการอยู่ในประเทศไทยครบตามระยะเวลาเดิมที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาให้ประเทศไทยมีอำนาจจัดเก็บ และไม่สามารถเก็บภาษีได้หากเงินได้ที่ผู้ให้บริการได้รับตกเป็นภาระของสถานประกอบการในประเทศไทย