Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้เป็นการศึกษาการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดของความผิดเพี้ยนของสัญญาณในการสื่อสัญญาณผ่านเส้นใยแสง เนื่องจากการลดทอนกำลังของสัญญาณ ดิสเพอร์ชัน PMDและผลของความไม่เป็นเชิงเส้นของเส้นใยแสง นอกจากนี้การวิเคราะห์ที่นำเสนอประกอบด้วย การคำนวณหาค่าระยะทางสูงสุดที่จะให้บริการได้สำหรับโครงข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟที่ได้รับผลกระทบจากความผิดเพี้ยนของสัญญาณจากปัจจัยข้างต้น โดยการตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ในเชิงคณิตศาสตร์ ทำโดยการจำลองทางคอมพิวเตอร์ของระบบการสื่อสัญญาณแสงที่มีการมอดูเลตสัญญาณแบบต่างๆ ที่กำหนดพารามิเตอร์เช่นเดียวกับการวิเคราะห์ในเชิงคณิตศาสตร์ เช่น ชนิดของเส้นใยแสง ความยาวคลื่น และระยะทาง โดยที่ค่า bit error rate (BER) ถูกใช้สำหรับประเมินความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณทางทฤษฎีเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้จากการจำลองระบบ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์พบว่าค่าความผิดเพี้ยนของสัญญาณขึ้นอยู่กับ ค่าดิสเพอร์ชัน และค่าการลดทอนกำลังของสัญญาณ โดยมีผลกระทบของดิสเพอร์ชันเป็นผลกระทบหลักต่อความผิดเพี้ยนของสัญญาณเมื่อเทียบกับผลของการลดทอนกำลังของสัญญาณ, PMD และ ผลของความไม่เป็นเชิงเส้นของเส้นใยแสง
วิทยานิพนธ์นี้นำเสนอสมรรถนะในการส่งผ่านสัญญาณของระบบ PON ที่อัตราข้อมูล 40 กิกกะบิตต่อวินาที ที่มีการมอดูเลตสัญญาณแบบ NRZ-OOK, RZ-OOK, NRZ-DPSK, RZ-DPSK, NRZ-DQPSK, RZ-DQPSK และ QAM รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาดิสเพอร์ชันโดยการติดตั้งหน่วยชดเชยดิสเพอร์ชันในระบบ (SC-DCU) ทำให้สามารถส่งผ่านสัญญาณได้เป็นระยะ 20 กิโลเมตรที่อัตราผิดพลาดบิตต่ำกว่า 10⁻³ (โดยยังไม่ผ่านการแก้ไขความผิดพลาดแบบล่วงหน้า: FEC )
โดยการศึกษาในวิทยานิพนธ์นี้ สามารถนำไปประยุกต์ในการหาความผิดเพี้ยนของการสื่อสัญญาณผ่านระบบการสื่อสัญญาณทางแสงผ่านโครงข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟ และนำเสนอแนวทางการออกแบบระบบโครงข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟที่มีประสิทธิภาพสูงสุด