Abstract:
ความสำคัญและที่มาของปัญหางานวิจัย ภาวะการขาดวิตามินดี ระดับของสารไอพีเทน(IP-10) และความหลากหลายของไอแอล 28 เบต้า(IL28 polymorphism) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยใน การทำนายผลการตอบสนองต่อ การรักษาด้วยยาอินเตอเฟียรอนและยาไรบ้าไวรินซึ่งเป็นมาตรฐานปัจจุบันในการรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี วิตามินดีมีผลต่อการควบคุมและเปลี่ยนแปลงของระดับไซโตไคน์และการตอบสนองของภูมิค้มกันการศึกษาที่ผ่ามา พบว่าวิตามินดีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสารไซโตไคน์ และระดับของสารไอพีเทน ผู้วิจัยจึงมีสมมุติฐานว่า ผลของการให้วิตามินตี มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับไซโตไคน์ใน ทีเฮลเปอร์ 1และ 2 สารไอพีเทน ทำให้การตอบสนองต่อการรักษาดีขึ้น
วัตถุประสงค์ของงานวิจัย การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินดีต่อ การเปลี่ยนแปลงของสารไซโตไคน์ และระดับของสารไอพีเทน ในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี
ระเบียบวิธีการวิจัย การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงสุ่ม เปรียบเทียบระหว่างยาหลอกและยาวิตามินดี โดยสุ่มผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีที่มีภาวะขาดวิตามินดี ออกเป็น2กลุ่มได้แก่ กลุ่มที่ได้รับยาหลอกและยาวิตามินดี แต่ละกลุ่มจะได้เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการเจาะเลือด เพื่อตรวจระดับวิตามินดี ระดับไซโตไคน์และระดับของสารไอพีเทน ก่อนได้รับยาและหลังได้รับยา 6 สัปดาห์ ตลอดจนได้รับการซักประวัติตรวจร่างกายและตรวจผลทางห้องปฏิบัติการพื้นฐานก่อนได้รับยา
ผลการวิจัย ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีที่มีภาวะขาดวิตามินดี 80 คน ได้รับยาหลอกและยาวิตามินดีกลุ่มละ 40 คน ก่อนได้รับยาและหลังได้รับยา 6 สัปดาห์ ในกลุ่มที่ได้รับยาวิตามินดี มีระดับวิตามินดีเฉลี่ยเท่ากับ 20.88 และ 45.93 นาโนกรัม/เดซิลิตร ตามลำดับ (p<0.01) ขณะที่ในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับไซโตไคน์ทั้งหมด ระดับของสารไอพีเทนในทั้ง 2 กลุ่ม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน ยกเว้นระดับของสารไอพีเทนใน กลุ่มที่ยาวิตามินดี ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยความสัมพันธ์ของระดับวิตามินดีและระดับของสารไอพีเทน ในทิศทางเป็นลบ (r =-0.376,p<0.05)
สรุป กาวศึกษาวิจัยในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการให้วิตามิน และระดับวิตามินที่สูงขึ้นในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีมีผลทำให้ระดับของสารไอพีเทนลดลง โดยไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับไซโตไคน์ของทีเฮลเปอร์1และ2 ผลการศึกษา ดังกล่าว จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่อธิบายว่า ทำไมภาวะการขาดวิตามินดี ระดับของสารไอพีเทน และการให้วิตามินดี จึงมีผลต่อการตอบสนองการรักษาในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง