Abstract:
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้ เพื่อศึกษาความแตกต่างของค่าเฉลี่ยแรงเสียดทานสถิตของ แบรกเกตเหล็กกล้าไร้สนิม แบรกเกตเซรามิก และแบรกเกตเซรามิกที่เสริมร่องด้วยเหล็กกล้าไร้สนิม ขนาด 0.018 x 0.025 นิ้ว กับลวดเหล็กกล้าไร้สนิม 4 ขนาด คือ 0.016 นิ้ว, 0.018 นิ้ว, 0.016 x 0.016 นิ้ว และ 0.016 x 0.022 นิ้ว ความรู้ที่ได้เป็นแนวทางสำหรับทันตแพทย์ในการพิจารณาเลือกใช้แบรกเกต ชนิดและขนาดของลวดที่เหมาะสมในการเคลื่อนฟันให้มีประสิทธิภาพ กลุ่มตัวอย่างเป็นแบรกเกต 3 ชนิด ชนิดละ 80 ตัวอย่าง และลวดเหล็กกล้าไร้สนิม 4 ขนาด ขนาดละ 60 ตัวอย่าง แบ่งแบรกเกตและลวดเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 20 ตัวอย่าง คัดเลือกโดยวิธีการสุ่ม นำแบรกเกตและลวดยึดติดกับเครื่องมือจับแบรกเกต และเครื่องมือจับลวด ซึ่งยึดติดกับครอสเฮด และฟิกส์เฮดของเครื่องยูนิเวอร์เซลเทสติงมะชีน ตามลำดับ ใช้ยางมัดลวดติดกับแบรกเกตในแนวดิ่งขนานกับร่องของแบรกเกต ทำการดึงแบรกเกตผ่านลวดในสภาพแห้ง ด้วยอัตราเร็วคงที่ 1 มม. ต่อนาที การแปลผลแรงเสียดทานสถิต พิจารณาในขณะที่แบรกเกตเริ่มเคลื่อนที่ ซึ่งตรงกับจุดสูงสุดตำแหน่งแรกของเส้นกราฟระหว่างแรงดึง (แกน Y) และระยะทางที่แบรกเกตเคลื่อนที่ (แกน X) และทดสอบความแตกต่างของ ค่าเฉลี่ยแรงเสียดทานสถิตระหว่างชนิดของแบรกเกตและขนาดของลวด โดยใช้สถิติวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบสองทิศทาง (Two way ANOVA ที่ p<0.05) ถ้าผลการวิเคราะห์มีความแตกต่างกัน ทดสอบความแตกต่างของแต่ละคู่ด้วย Scheffe test ผลการวิจัยสรุปได้ว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของค่าเฉลี่ยแรงเสียดทานสถิต ในแบรกเกต 3 ชนิด เมื่อใช้ลวดเหล็กกล้าไร้สนิมขนาดเดียวกัน โดยทั่วไปค่าเฉลี่ยแรงเสียดทานสถิตของแบรกเกตเหล็กกล้าไร้สนิม มีค่าน้อยที่สุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่แบรกเกตเซรามิกมีแรงเสียดทานสถิตสูงกว่าแบรกเกตเซรามิกที่เสริมร่องด้วยเหล็กกล้าไร้สนิม แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติและที่ขนาดลวด 0.016 x 0.022 นิ้วค่าเฉลี่ยแรงเสียดทานสถิตของแบรกเกต 3 ชนิด ไม่แตกต่างกัน ขนาดของลวดมีผลต่อแรงเสียดทานสถิตของแบรกเกตเหล็กกล้าไร้สนิมเท่านั้น กล่าวคือ แรงเสียดทานสถิตจะมีค่าเพิ่มขึ้นเมื่อลวดมีขนาดใหญ่ขึ้น