Abstract:
การปลอมหนังสือเดินทางจัดว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจผิดกฎหมายขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และเป็นเครื่องมือสำคัญที่องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดอย่างอื่น อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงอย่างรุนแรง ซึ่งอาชญากรรมดังกล่าวจะมีรูปแบบการกระทำความผิดที่สลับซับซ้อนยากแก่การปราบปราม อีกทั้งก่อให้เกิดผลตอบแทนจากการกระทำความผิดเป็นจำนวนมหาศาล โดยอาชญากรจะนำเงินได้เหล่านี้ไปใช้เป็นต้นทุนในการกระทำความผิดครั้งต่อไปไม่จบสิ้น กลายเป็นวงจรอาชญากรรมที่ยากต่อการป้องกันและปราบปราม นอกจากนี้ บทบัญญัติกฎหมายที่บังคับใช้แก่อาชญากรรมดังกล่าวยังไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถบรรลุผลในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญาไม่ได้กำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางเป็นความผิดเฉพาะแยกออกมาต่างหากจากความผิดเกี่ยวกับเอกสาร และมิได้กำหนดบทลงโทษที่มีความรุนแรงเพียงพอ
รวมทั้งมีกระบวนการริบทรัพย์สินที่ยุ่งยาก ไม่สามารถตัดวงจรเงินได้จากการกระทำความผิดได้อย่างทันท่วงที ด้วยเหตุดังกล่าว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องหามาตรการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมหนังสือเดินทางมาบังคับใช้ ซึ่งได้แก่ มาตรการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวมีบทลงโทษทางอาญาที่รุนแรง และมีมาตรการริบทรัพย์สินทางแพ่งที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้สามารถตัดวงจรทางการเงินขององค์กรอาชญากรรมได้ เพื่อนำมาตรการในกฎหมายดังกล่าวมาใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงสมควรกำหนดให้การกระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมหนังสือเดินทางเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542