Abstract:
วัตถุประสงค์: เพื่อหาอัตราการตรวจพบของตับอักเสบเรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุในกลุ่มโรคตับอักเสบเรื้อรังที่ไม่ได้เกิดจากไวรัสบี, ไวรัสซี และอัลกอฮอล์ ในคลินิกโรคตับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ วิธีการศึกษา: ผู้ป่วยซึ่งตรวจไม่พบว่ามีสาเหตุของตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสบี, ไวรัสซี และอัลกอฮอล์ จำนวน 36 คน ในคลินิกโรคตับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จะได้รับการตรวจเลือดและการเจาะตับ โดยความสมัครใจ เพื่อหาสาเหตุของโรค และทำการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยบันทึกในแบบบันทึกข้อมูล และวิเคราะห์โดยใช้สถิติพื้นฐานของการศึกษาวิจัยเชิงพรรณาแบบไปข้างหน้า ผลการศึกษา: พบว่าตับอักเสบเรื้อรังที่ไม่พบสาเหตุ หลังจากการทำการตรวจเลือดและเจาะตับแล้วมีถึงร้อยละ 22.2 ในขณะที่สาเหตุส่วนใหญ่ที่ตรวจพบก็คือภาวะตับอักเสบจากไขมัน ซึ่งรวมถึงชนิดที่มีและไม่มีการอักเสบด้วยนั้น พบถึงร้อยละ 72.2 โดยเมื่อเปรียบเทียบตัวแปรต่างๆ ระหว่างกลุ่มตับอักเสบเรื้อรังที่ไม่พบสาเหตุ กับกลุ่มตับอักเสบจากไขมัน พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในแง่ของ ระดับน้ำตาลในเลือด, ค่าอัลคาไลน์ ฟอสฟาเตส (alkaline phosphatase), ระดับเหล็กในเลือด (ferritin) และระดับของการอักเสบในเนื้อตับจากผลทางพยาธิวิทยา (p<0.05) และเมื่อเปรียบเทียบตัวแปรต่างๆ ระหว่างกลุ่มตับอักเสบจากไขมันชนิดที่มีการอักเสบ (seteatohepatitis) กับชนิดที่ไม่มีการอักเสบ (steatosis) ก็พบว่ามีเพียงค่าดัชนีชี้วัดความอ้วน (body mass index) เป็นตัวแปรเพียงตัวเดียวที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.02) สรุป: ภาวะตับอักเสบเรื้อรังจากไขมันเป็นสาเหตุที่พบได้มากที่สุดในกลุ่มตับอักเสบเรื้อรังที่ไม่ได้เกิดจากไวรัสบี, ไวรัสซี และอัลกอฮอล์ในคลินิกโรคตับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีลักษณะอ้วน, มีโรคเบาหวาน และมีระดับเหล็กในเลือดสูง ส่วนตับอักเสบเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุนั้นก็พบได้พอสมควร