Abstract:
การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงระดับการใช้วิจารณญาณเชิงจริยธรรมของผู้ตรวจสอบภายใน และศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้วิจารณญาณเชิงธรรมของผู้ตรวจสอบภายในของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปัจจัยที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) จรรยาบรรณวิชาชีพตรวจสอบภายใน 2) หลักจริยธรรมส่วนบุคคล ได้แก่ เกณฑ์อุดมคตินิยม และเกณฑ์สัมพัทธนิยม 3) วัฒนธรรมทางจริยธรรมขององค์กร 4) ค่านิยมในการทำงาน 5) ปัจจัยส่วนบุคคลประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ในการตรวจสอบ และวุฒิบัตรวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ตรวจสอบภายในของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 300 บริษัท โดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ความถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า โดยภาพรวมผู้ตรวจสอบภายในมีระดับการใช้วิจารณญาณเชิงจริยธรรมอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะทำให้ผลงานของผู้ตรวจสอบภายในมีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิผล และจากการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างระดับการใช้วิจารณญาณเชิงจริยธรรมกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 พบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้วิจารณญาณเชิงจริยธรรมของผู้ตรวจสอบภายในมี 2 ปัจจัย ได้แก่ 1) ปัจจัยจรรยาบรรณวิชาชีพตรวจสอบภายในส่งผลต่อการใช้วิจารณญาณเชิงจริยธรรมของผู้ตรวจสอบภายในกล่าวคือ จรรยาบรรณวิชาชีพตรวจสอบภายในสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งทางจริยธรรมหรือใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้ถูกต้องเหมาะสม 2) ปัจจัยส่วนบุคคลประกอบด้วย อายุ และระดับการศึกษา โดยที่ผู้ตรวจสอบภายในที่มีอายุมากจะมีระดับการใช้วิจารณญาณเชิงจริยธรรมสูงกว่าผู้ตรวจสอบภายในที่มีอายุน้อย เนื่องจากผู้ที่มีอายุมากจะมีวุฒิภาวะและประสบการณ์สูง ทำให้มองเห็นปัญหาได้ชัดเจนและถูกต้อง นอกจากนี้ผู้ตรวจสอบภายในที่มีระดับการศึกษาสูงจะมีระดับการใช้วิจารณญาณเชิงจริยธรรมสูงกว่าที่มีระดับการศึกษาต่ำ เนื่องจากการศึกษาช่วยพัฒนาความรู้ ความคิด และวิจารณญาณของบุคคล สำหรับปัจจัยอื่น ๆ นั้น ไม่ส่งผลต่อการใช้วิจารณญาณเชิงจริยธรรมของผู้ตรวจสอบภายใน