Abstract:
ในปัจจุบันแคปท์ชาข้อความยังคงเป็นปัญหาในการใช้งานสำหรับผู้ใช้ โดยแคปท์ชาข้อความที่ดีจะต้องรอดพ้นจากการโจมตีจากบอต และง่ายต่อการโต้ตอบของมนุษย์ ตัววัดประสิทธิภาพของแคปท์ชา คือ (1) อัตราการยืนยันความเป็นมนุษย์ อันหมายถึง อัตราที่ผู้ใช้สามารถระบุอักษรที่ปรากฏในแคปท์ชาข้อความได้ถูกต้อง และ (2) อัตราความทนทานของแคปท์ชาข้อความ อันหมายถึง อัตราที่แคปท์ชาข้อความสามารถป้องกันการโจมตีของโปรแกรมโอซีอาร์ ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสนใจที่จะวิเคราะห์ผลของ (1) การหมุนเอียงอักษร (2) แบบอักษร (3) จำนวนอักษร และ (4) ชุดอักขระ ต่อ อัตราการยืนยันความเป็นมนุษย์ และความทนทานของแคปท์ชาข้อความ งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ การวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า แบบอักษร และชุดอักขระ ของแคปท์ชาข้อความมีผลต่ออัตราการยืนยันความเป็นมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ทว่าผลของ (1) การหมุนเอียงอักษร หรือ (2) จำนวนอักษรของแคปท์ชาข้อความ ต่ออัตราการยืนยันความเป็นมนุษย์ไม่มีนัยสำคัญ นอกจากนี้ผลของทุกตัวแปรอิสระต่ออัตราความทนทานของแคปท์ชาข้อความไม่มีนัยสำคัญ ข้อสรุปที่ได้จากการศึกษานี้เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ของการพัฒนาแคปท์ชาข้อความ อีกทั้งผู้พัฒนาแคปท์ชาข้อความยังใช้เป็นข้อมูลในการเลือกระดับการเอียงตัวอักษร แบบตัวอักษร จำนวนอักษร และชุดอักขระให้ง่ายต่อการใช้งานของมนุษย์ และยากต่อการโจมตีของโปรแกรมคอมพิวเตอร์อัตโนมัติ