Abstract:
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความตั้งใจที่จะใช้การคุมกำเนิดของสตรีโสดใน 3 ประเด็นคือ ความตั้งใจที่จะใช้การคุมกำเนิด เวลาที่คิดว่าควรเริ่มใช้การคุมกำเนิด และวิธีการคุมกำเนิดที่ตั้งใจจะใช้ตลอดจนศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านประชากร เศรษฐกิจ สังคม และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความตั้งใจที่จะใช้การคุมกำเนิดของสตรีโสด โดยใช้ข้อมูลจากการสำรวจเกี่ยวกับความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติด้านการวางแผนครอบครัวของประชากรภาคใต้ พ.ศ. 2537 ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ สตรีโสดอายุ 15-35 ปี และเป็นผู้ตอบคำถามด้วยตนเอง จำนวน 1423 ราย ผลการศึกษาภาพรวมของความตั้งใจที่จะใช้การคุมกำเนิดของสตรี พบว่า สตรีครึ่งหนึ่งยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องการคุมกำเนิด รองลงมาคือ สตรีที่ตั้งใจจะใช้การคุมกำเนิด และสตรีที่ตั้งใจจะไม่ใช้การคุมกำเนิด ในด้านเวลาที่คิดว่าควรเริ่มใช้การคุมกำเนิดพบว่า มีสัดส่วนใกล้เคียงกันระหว่างกลุ่มสตรีที่ยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้กับสตรีที่เห็นว่า ควรเริ่มใช้การคุมกำเนิดภายหลังการสมรส รองลงมาคือ กลุ่มสตรีที่เห็นว่า ควรเริ่มใช้การคุมกำเนิดภายหลังการมีบุตร 1 คน และภายหลังการมีบุตรแล้ว 2 คน สำหรับวิธีการคุมกำเนิดที่ตั้งใจจะใช้พบว่า มีสัดส่วนใกล้เคียงกันระหว่างกลุ่มสตรีที่ตั้งใจจะใช้ยาเม็ดและยาฉีดกับกลุ่มสตรีที่ยังไม่ได้คิดถึงวิธีการคุมกำเนิดที่ตั้งใจจะใช้ รองลงมาคือ กลุ่มที่ตั้งใจจะใช้การทำหมันหญิงและหมันชาย และวิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวอื่นๆ เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านประชากร เศรษฐกิจ สังคม และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความตั้งใจจะใช้การคุมกำเนิด พบว่า อายุ ศาสนา การศึกษา อาชีพ สถานภาพการทำงาน จำนวนวิธีการคุมกำเนิดที่รู้จัด จำนวนบุตรที่คิดว่าเหมาะสม จำนวนบุตรที่ต้องการ มีผลทำให้เกิดความแตกต่างในด้านความตั้งใจที่จะใช้การคุมกำเนิด เวลาที่คิดว่าควรจะเริ่มใช้การคุมกำเนิด และวิธีการคุมกำเนิดที่ตั้งใจจะใช้ส่วนเขตที่อยู่อาศัย พบว่า เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างในด้านความตั้งใจที่จะใช้การคุมกำเนิด และเวลาที่คิดว่าควรเริ่มใช้การคุมกำเนิด แต่เขตที่อยู่อาศัยไม่มีอิทธิพลต่อวิธีการคุมกำเนิดที่ตั้งใจจะใช้