Abstract:
ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานฟอสซิลที่มีปริมาณสำรองมากกว่าเชื้อเพลิงประเภทอื่น เช่นก๊าซธรรมชาติและปิโตรเลียม อีกทั้งยังมีราคาไม่ค่อยผันผวนและราคาต่อค่าหน่วยความร้อนถูกกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น จากข้อดีข้างต้น งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการใช้ก๊าซเชื้อเพลิงจากถ่านหินนำเข้าเกรดบิทูมินัส (ถ่านหินอินโดนีเซีย) มาทดแทนการใช้ก๊าซแอลพีจีสำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตเซรามิกในจังหวัดลำปาง โดยจำลองกระบวนการเกิดก๊าซเชื้อเพลิงจากถ่านหินด้วยโปรแกรม ASPEN Plus ได้ปริมาณก๊าซเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น 5,439.20 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 1,185.40 องศาเซลเซียส จากอัตราการป้อนถ่านหินจำนวน 550 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ดังนั้น ต้องใช้ถ่านหินจำนวนประมาณ 5.39 กิโลกรัม ในการผลิตก๊าซเชื้อเพลิงให้ได้ค่าความร้อนเท่ากับก๊าซแอลพีจีที่ค่ามีความร้อนประมาณ 11,800 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัม โดยให้ราคาถ่านหินนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซียและราคาจำหน่ายก๊าซแอลพีจีสำหรับภาคอุตสาหกรรม ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2557 อยู่ที่ราคาประมาณ 3,000 บาทต่อตัน (รวมค่าขนส่งถึงจังหวัดลำปาง) และ 30.13 บาทต่อกิโลกรัม ตามลำดับ จะได้ต้นทุนของการใช้ก๊าซเชื้อเพลิงจากถ่านหินมีค่าเท่ากับ 16.18 บาทต่อกิโลกรัม หรือต่ำกว่าราคาก๊าซแอลพีจีประมาณ 1.86 เท่า คิดเป็นร้อยละ 53.70 ของราคาก๊าซแอลพีจี
ผลการศึกษาพบว่า จะสามารถลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงได้ประมาณปีละ 13.79 ล้านบาท สำหรับปริมาณความต้องการใช้เชื้อเพลิง 3,000 กิโลกรัมต่อวัน ดังนั้น เมื่อนำข้อมูลที่ได้มาสร้างแบบจำลองทางการเงินเพื่อวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนในการใช้ก๊าซเชื้อเพลิงจากถ่านหินผลิตเซรามิก จะได้อัตราผลตอบแทนภายในโครงการอยู่ที่ร้อยละ 14.88 และมูลค่าปัจจุบันของผลตอบแทนสุทธิของโครงการโดยกำหนดที่อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 อยู่ที่ประมาณ 9.44 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลา 5.902 ปี (ประมาณ 5 ปี 10 เดือน 24 วัน) โดยประเมินอายุโครงการ 10 ปี
ดังนั้น จากผลการศึกษาจึงสามารถสรุปได้ว่า มีความเป็นไปได้ในการใช้ถ่านหินนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย มาผลิตเป็นก๊าซเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกในจังหวัดลำปาง