Abstract:
ปัจจุบันน้ำมันพืชได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในการทดแทนพลังงานเดิมที่มีอยู่ เรียกว่า พลังงานทางเลือก เนื่องจากน้ำมันพืชส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย และในอนาคตการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากสามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ส่งเสริมพลังงานสะอาด และนำไปสู่การพัฒนาแบบยั่งยืน แต่เนื่องด้วยน้ำมันพืชมีความหนืดสูงจึงจำเป็นต้องลดความหนืดก่อนนำไปใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลด้วยกระบวนการไมโครอิมัลชัน ซึ่งกระบวนการไมโครอิมัลชันเป็นการผสมระหว่างน้ำมันพืช สารลดแรงตึงผิว และเอทานอล เพื่อให้เกิดความมีเสถียรภาพเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นการศึกษางานวิจัยนี้นำกระบวนการไมโครอิมัลชันมาใช้เพื่อผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยใช้ชนิดน้ำมันพืช (น้ำมันปาล์มใช้แล้วที่บำบัดทางกายภาพ น้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลือง) ผสมดีเซลหรือไบโอดีเซล ที่อัตราส่วน 50:50 ที่ปริมาตร 75 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก สารลดแรงตึงผิว (ดีไฮดอลเอทิลีนออกไซด์1 ดีไฮดอลเอทิลีนออกไซด์5 โอเลอิลแอลกอฮอล์ และเมทิลโอลิเอต) ผสมสารลดแรงตึงผิวร่วม (ออคทานอล และเอทิลีนไกลคอลบิวทิลอีเทอร์) ที่อัตราส่วน 1:8 ที่ปริมาตร 5 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก และเอทานอลเกรดการค้าความบริสุทธิ์ 95 เปอร์เซ็นต์ ที่ปริมาตร 20 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก เป็นส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพที่เกิดเป็นสารละลายเนื้อเดียวกัน ซึ่งจะได้เชื้อเพลิงชีวภาพไมโครอิมัลชันที่นำมาศึกษาคุณสมบัติและเปรียบเทียบตามเกณฑ์มาตรฐาน ASTM (American Standard Testing Method) ของเชื้อเพลิงดีเซลประเภท 2 และเชื้อเพลิงไบโอดีเซล ผลการทดลองพบว่าเชื้อเพลิงชีวภาพไมโครอิมัลชันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของเชื้อเพลิงไบโอดีเซล และจากการทดสอบการปล่อยก๊าซไอเสียของเครื่องยนต์ พบว่า ชนิดของน้ำมันพืช คือ น้ำมันปาล์มใช้แล้วที่ผ่านการบำบัดทางกายภาพมีการปล่อยก๊าซไอเสียน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลือง เพราะฉะนั้นการนำน้ำมันพืชมาผ่านกระบวนการไมโครอิมัลชันถือเป็นเทคนิคหนึ่งเพื่อใช้ในการผลิตน้ำมันทางเลือก